ราคาน้ำมันโลก WTI พุ่ง 1.68 ดอลล์ หลังยูเครนโจมตีแหล่งพลังงานรัสเซีย
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดวันจันทร์(18มี.ค.) ปรับตัวขึ้น 1.68 ดอลลาร์ โดยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว หลังยูเครนยกระดับโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของรัสเซีย
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. บวก 1.68 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 86.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน พุ่งขึ้นเกือบ 4% ในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว
ราคาน้ำมันได้ปัจจัยบวกจากรายงานของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่คาดการณ์ภาวะน้ำมันตึงตัวในปีนี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่ยูเครนใช้ฝูงโดรนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันของรัสเซียอย่างหนักหน่วง ส่งผลให้เกิดไฟไหม้โรงกลั่นใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของรอสเนฟต์
สำนักข่าวรอยเตอร์วิเคราะห์ว่าการโจมตีของยูเครนครั้งนี้เล็งเป้าเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของรัสเซีย เพื่อบั่นทอนศักยภาพด้านการผลิตของรัสเซียลงทั้งยังทำให้อุปทานพลังงานโลกอยู่ในภาวะตึงตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้