นักวิเคราะห์ชี้ปัญหาการเมืองเวียดนาม อาจฉุดความเชื่อมั่นนลท.ต่างชาติ

นักวิเคราะห์ชี้ปัญหาการเมืองเวียดนาม อาจฉุดความเชื่อมั่นนลท.ต่างชาติ

นักวิเคราะห์มีความเห็นว่า ภาวะวุ่นวายทางการเมืองของเวียดนาม อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ เหตุประธานาธิบดี 2 คนลาออกจากตำแหน่ง หลังทำหน้าที่ได้ไม่นาน

พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามอนุมัติใบลาออกของประธานาธิบดีหวอ วัน เถือง โดยระบุว่าเขาละเมิดกฎระเบียบของพรรค หลังจากเขาเพิ่งดำรงตำแหน่งได้ไม่ถึงปี

รัฐบาลเวียดนามเผยแพร่แถลงการณ์ที่ระบุว่า ประธานาธิบดีหวอ วัน เถือง ละเมิดกฎระเบียบของพรรคคอมมิวนิสต์ และมีความบกพร่องจนส่งผลกระทบต่อความเห็นของสาธารณชน ชื่อเสียงของพรรค ประเทศ และตัวเขาเอง และคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งมีอำนาจตัดสินใจสูงสุด อนุมัติการลาออกของประธานาธิบดีเถืองแล้ว 

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีมีบทบาทในทางพิธีการเท่านั้น แม้เป็น 1 ใน 4 ตำแหน่งทางการเมืองสูงสุดของประเทศ

แถลงการณ์ของรัฐบาลไม่ระบุรายละเอียดความบกพร่องของนายเถือง แต่ที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งระดับผู้นำในพรรคคอมมิวนิสต์ มักเกี่ยวข้องกับการปราบปรามการทุจริตในวงกว้าง แต่ก็ถูกตั้งข้อสงสัยจากนักวิจารณ์ว่า ข้ออ้างนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจทางการเมือง

นักลงทุนต่างชาติและนักการทูตมักกล่าวโทษว่าการปราบปรามดังกล่าว ส่งผลให้เกิดความล่าช้าของการตัดสินใจในประเทศ ที่มีปัญหาเรื่องระบบการทำงานของภาครัฐ

การลาออกของนายเถือง วัย 53 ปี มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากตำรวจประกาศการจับกุมในคดีคอร์รัปชันเมื่อสิบปีที่แล้วของอดีตผู้ว่าการจังหวัดกว๋างหงาย ที่เคยปฏิบัติหน้าที่ในสมัยที่นายเถืองเป็นหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ของจังหวัดนี้

นายเถืองเป็นคนใกล้ชิดของเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเวียดนาม และมีบทบาทสำคัญในการปราบปรามการทุจริต

เมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดีเหวียน ซวน ฟุก ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากพรรคกล่าวโทษเขาเกี่ยวกับการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ภายใต้การบังคับบัญชาของเขา  และสมัชชาแห่งชาติมีมติแต่งตั้งนายเถืองดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแทน

ด้านตลาดหุ้นโฮจิมินห์ ดิ่งลงเกือบ 3% ในช่วงแรกของการซื้อขายเมื่อวันจันทร์(18มี.ค.)ที่ผ่านมา หลังมีข่าวลือเกี่ยวกับการลาออกของนายเถือง

นายฟลอเรียน เฟเยราเบนด์ เจ้าหน้าที่ประจำเวียดนามของมูลนิธิ Konrad Adenauer Foundation ซึ่งเป็นสำนักวิจัยของเยอรมนี กล่าวว่า เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความไม่มั่นใจเกี่ยวกับความสามารถในการคาดการณ์ และความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีความสำคัญต่อการตัดสินใจด้านธุรกิจ