สื่ออังกฤษชื่นชมเจ้าหญิงเคท ‘กล้าหาญ’ ยอมรับเป็นมะเร็ง

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน การเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาผ่านคลิปวีดิโอเมื่อเย็นวันศุกร์ (22 มี.ค.) ทำให้สถาบันกษัตริย์อังกฤษยุคใหม่ตกอยู่ในวิกฤติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงกำลังต่อสู้โรคร้ายพร้อมกันสองพระองค์

เมื่อเดือน ก.พ. สำนักพระราชวังบักกิงแฮมประกาศว่า กษัตริย์ชาล์สผู้ทรงครองราชย์ได้ 17 เดือน เป็นมะเร็งและจะยกเลิกพระราชกรณียกิจทั้งหมด

 

ส่วนเจ้าหญิงเคททรงประกาศผ่านคลิปเมื่อเย็นวันศุกร์ทำเอาผู้คนทั่วสารทิศเริ่มต้นจากคนใกล้ชิด ผู้นำสหราชอาณาจักร และผู้นำโลกต้องส่งข้อความให้กำลังใจ และที่สำคัญคือสื่ออังกฤษที่ขุดคุ้ยพระองค์อย่างหนักช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างลงข่าวหน้าหนึ่งฉบับวันเสาร์ (23 มี.ค.) ให้กำลังใจเจ้าหญิงเคท และยกย่องในความกล้าหาญ

 แทบลอยด์เดอะซัน พาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง

“เคท พระองค์ไม่ได้โดดเดี่ยว”

ด้านราเชล จอห์นสัน น้องสาวอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน คอลัมนิสต์ของเดอะสแตนดาร์ด ระบุ

“เคทผู้งามสง่าได้รับความเห็นอกเห็นใจจากคนทั้งชาติ”

นักวิจารณ์ชื่นชมท่าทีที่เจ้าหญิงเคทแสดงออกผ่านคลิปอย่างตรงไปตรงมา พระองค์ตรัสกับกล้องขณะประทับบนม้านั่ง

“ผู้คนจำนวนมากประทับใจกับท่าทีของพระองค์ตลอดคลิปสองนาทีเศษ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือช่วงเวลายากลำบากมากๆ สำหรับสถาบันกษัตริย์ ตอนนี้แทบจะวางแผนอะไรเกี่ยวกับกษัตริย์ชาลส์และเจ้าหญิงเคทไม่ได้เลย” ริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านราชวงศ์เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพี

ในคลิปวิดีโอ เจ้าหญิงแห่งเวลส์ วัย 42 ปี ทรงระบุว่า การวินิจฉัยของแพทย์ที่ตรวจพบโรคมะเร็งเป็นเรื่องน่าตกใจอย่างมาก เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ทรงเข้ารับการผ่าตัดใหญ่บริเวณช่องท้องในกรุงลอนดอน ซึ่งในเวลานั้นทรงคิดว่าโรคที่เป็นไม่ใช่มะเร็ง และการผ่าตัดผ่านไปด้วยดี แต่การตรวจอีกหลายครั้งหลังการผ่าตัดพบมะเร็ง ทีมแพทย์จึงถวายคำแนะนำว่า ควรเข้ารับยาเคมีบำบัด หรือคีโม พระองค์จึงเริ่มเข้ารับยาเคมีบำบัดซึ่งอยู่ในขั้นต้นของกระบวนการรักษา

นายแพทย์แอนดรูว์ เบกส์ แพทย์อาวุโสและศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่ มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม เผยว่า การให้คีโมเพื่อป้องกันหลังผ่าตัด เป็นการลดความเสี่ยงไม่ให้มะเร็งกลับมาอีก

“เหมือนกับเราถูพื้นด้วยน้ำยาฟอกขาวเมื่อทำของตก” พร้อมแจ้งว่าคีโมจะ“ฆ่าเซลส์ที่กระจายตัว”

ข่าวเจ้าหญิงเคทเป็นมะเร็งถือเป็นข่าวช็อกโลก ด้วยเจ้าชายวิลเลียม เจ้าหญิงเคท และโอรสธิดาทั้งสามพระองค์ ถูกมองว่าเป็นตัวแทนราชวงศ์อังกฤษยุคใหม่ และเป็นอนาคตท่ามกลางความนิยมสถาบันกษัตริย์ที่ลดน้อยลงในหมู่คนรุ่นใหม่ ความต้องการเป็นสาธารณรัฐเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ