รัสเซียรวบ 11 ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุโจมตี ขณะยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุ 115 ราย
ยอดผู้เสียชีวิตเหตุโจมตีกลางงานคอนเสิร์ตในรัสเซียพุ่งขึ้นแตะ 115 รายแล้ว ขณะรัฐบาลรวบตัว 11 ผู้ต้องสงสัย ในจำนวนนี้ 4 รายถูกรวบขณะพยายามหนีข้ามพรมแดนไปยูเครน ด้านทั่วโลกส่งสารแสดงความเสียใจ
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างทำเนียบเครมลินว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐบาลกลางรัสเซีย (FSB) ได้รายงานตรงต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เกี่ยวกับการจับกุมบุคคล 11 คนซึ่งรวมถึง 4 คนที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับการโจมตี กราดยิง ของผู้ก่อการร้าย ในงานคอนเสิร์ตที่โครคัส ซิตี ฮอลล์ ย่านชานกรุงมอสโก เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 มี.ค.)
รายงานได้อ้างสำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์ว่า FSB เข้าจับกุมผู้ต้องสัยที่เป็นมือปืน 4 คน ขณะกำลังพยายามหนีข้ามพรมแดนไปยังยูเครน ซึ่งมีคนรู้จักอยู่ที่นั่น แต่ทางการรัสเซียไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม และระบุเพียงว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำในกรุงมอสโกแล้ว
อเล็กซานเดอร์ คินช์ทีน สมาชิกสภานิติบัญญัติรัสเซีย เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อเรโนลต์ขับหลบหนีก่อนจะถูกตำรวจในแคว้นไบรอันสก์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 340 กิโลเมตร สังเกตพบและเรียกให้จอด แต่ผู้สงสัยฝ่าฝืนคำสั่งและขับรถหลบหนีไป จนตำรวจต้องออกไล่ล่าและจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน ส่วนอีก 2 คนตามจับกุมได้ขณะหลบหนีเข้าป่า
จากการตรวจค้นรถพบปืนพกหนึ่งกระบอก แม็กกาซีนปืนไรเฟิล และพาสปอร์ตของประเทศทาจิกิสถาน ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของรัสเซียนในแถบเอเชียกลาง และเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงภายในฮอล์คอนเสิร์ตวงดนตรีร็อกเมื่อวันศุกร์ เพิ่มขึ้นไปเป็น 115 รายแล้ว จากรายงานเบื้องต้นเมื่อเช้านี้แค่ 40 คน โดยข่าวระบุว่าเหยื่อบางรายเสียชีวิตเพราะถูกปืนยิง แต่ก็มีอีกจำนวนหนึ่งที่เสียชีวิตจากไฟไหม้ในฮอลลืดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่าจะยังคงพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตในอาคารต่อไปอีกหลายวัน
เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้รัสเซียสั่งตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดตามสนามบิน ท่ารถโดยสาร และในหลายพื้นที่ทั่วกรุงมอสโกซึ่งมีประชากรกว่า 21 ล้านคน พร้อมสั่งยกเลิกการจัดงานในที่สาธาธารณะทั่วประเทศเป็นการชั่วคราว
ทางด้านรัฐบาลหลายประเทศทั่วโลกต่างร่วมประณามเหตุความรุนแรงครั้งนี้ และส่งสารแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มประเทศตะวันตกในยุโรปและสหรัฐ จะเลือกใช้คำที่แสดงความเสียใจถึงผู้สูญเสียและประชาชาชนชาวรัสเซีย โดยไม่มีการระบุถึงรัฐบาลรัสเซียแต่อย่างใด มีเพียงบางประเทศ เช่น จีน อินเดีย และเวเนซูเอลา ที่สารแสดงความเสียใจครอบคลุมไปถึงรัฐบาลประธานาธิบดีปูตินด้วย