ผู้เชี่ยวชาญชี้ 'สะพานบัลติมอร์ถล่ม' แทบไม่กระทบเศรษฐกิจสหรัฐ
ผู้เชี่ยวชาญชี้ เหตุสะพานถล่มในบัลติมอร์ "แทบไม่ส่งผลกระทบ" ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ถึงแม้จะเป็นหายนะทางทะเลครั้งใหญ่ของประเทศก็ตาม
นายโจเซฟ บรูซูลาส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทอาร์เอสเอ็ม (RSM) เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า เหตุการณ์สะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) พังถล่มในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ของสหรัฐนั้น ถือเป็นหายนะทางทะเล แต่เชื่อว่าจะไม่ก่อให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐ
"สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นโศกนาฏกรรมของมนุษยชาติอย่างแท้จริง แต่ในแง่ของเศรษฐกิจนั้น ผมเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคเพียงเล็กน้อย" นายบรูซูลาสกล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เรือบรรทุกตู้สินค้าชื่อ ดาลี (Dali) ซึ่งติดธงชาติสิงคโปร์ ได้พุ่งเข้าชนเสาต้นหนึ่งของสะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร (26 มี.ค.) ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้สะพานถล่มลงมาทันที
เหตุการณ์สะพานถล่มในครั้งนี้ส่งผลท่าเรือบัลติมอร์ประกาศปิดดำเนินการจนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป อีกทั้งยังทำให้การขนส่งทางเรือที่ท่าเรือแห่งนี้ถูกระงับ โดยท่าเรือบัลติมอร์มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ของสหรัฐ และเป็นหนึ่งในท่าเรือสำหรับการส่งออกที่สำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์
ในปี 2566 ท่าเรือบัลติมอร์ให้บริการขนส่งรถยนต์และรถบรรทุกเล็กกว่า 874,000 คัน ซึ่งสูงกว่าท่าเรือแห่งอื่น ๆ ในสหรัฐ
"ท่าเรือบัลติมอร์อาจดูไม่ค่อยน่าสนใจในสายตาของชาวอเมริกันส่วนใหญ่เมื่อพิจารณาจากทำเลที่ตั้ง และดูไม่สวยงามเหมือนกับท่าเรือแอลเอ แต่ท่าเรือบัลติมอร์มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐ" นายบรูซูลาสระบุ
ทั้งนี้ นายบรูซูลาสกล่าวว่า บริษัทรถยนต์หลายรายอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู และโฟล์คสวาเกน อาจจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เมื่อพิจารณาจากการที่บริษัทเหล่านี้พึ่งพาการขนส่งที่ท่าเรือบัลติมอร์เป็นอย่างมาก
"กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการซื้อรถยนต์ใหม่อาจจะกังวลเรื่องปัญหาขาดแคลนชั่วคราว ซึ่งหมายความว่าผู้บริโภคเหล่านี้อาจจะต้องรอคอยเพิ่มขึ้นอีกหลายสัปดาห์ จึงจะสามารถซื้อรถยนต์รุ่นที่ต้องการได้ ส่วนกลุ่มบริษัทค้าปลีกอย่าง อันเดอร์ อาร์เมอร์, โฮม ดีโปท์, อิเกีย และเฟดเอ็กซ์ อาจจะได้รับผลกระทบในระยะใกล้นี้"
อย่างไรก็ดี นายบรูซูลาสคาดว่า เหตุการณ์สะพานถล่มในบัลติมอร์จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมมากนัก ซึ่งสอดคล้องกับที่นายมาร์ค แซนดี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทมูดี้ส์กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากภาพรวมแล้ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจจะไม่มากนัก
"เราคาดว่าเหตุการณ์นี้จะไม่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ เพียงแต่จะต้องใช้เวลาในการรอคอยให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ" นายแซนดีระบุ
อ้างอิง: CNBC