ศาลแมนฮัตตันตัดสินจำคุก 25 ปี "แซม แบงก์แมน-ฟรีด" เซ่นพิษ FTX ล้มละลาย
แซม แบงก์แมน-ฟรีด ผู้ก่อตั้งบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีที่ประสบภาวะล้มละลาย ถูกศาลรัฐบาลกลางในแมนแฮตตันตัดสินจำคุก 25 ปีในวันพฤหัสบดี(28มี.ค.)ในข้อหาฉ้อโกงและสมรู้ร่วมคิดเกี่ยวกับการล้มละลายของ FTX
อย่างไรก็ดี โทษจำคุก 25 ปี ถือว่าเบากว่าที่อัยการเสนอให้จำคุก 40-50 ปี แต่ก็หนักกว่าที่ทนายความของนายแบงก์แมน-ฟรีดเสนอต่อศาลให้เขารับโทษเพียง 5-6 ปีครึ่ง
ก่อนหน้านี้ คณะลูกขุนสหรัฐตัดสินให้นายแบงก์แมน-ฟรีดมีความผิด 7 กระทง ซึ่งเขาต้องรับผิดชอบต่อการที่เงินฝากของลูกค้าสูญหายไปราว 10,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 364,125 ล้านบาทในปี 2565
ผู้พิพากษาลูอิส เอ เเคปแลน กล่าวว่า โทษจำคุกในครั้งนี้สะท้อนความเสี่ยงที่ว่า “ชายคนนี้อาจจะอยู่ในสถานะที่ทำสิ่งเลวร้ายมาก ๆ ในอนาคตได้"
ด้านอัยการระบุว่า แบงก์แมน-ฟรีด สร้างความสูญเสียมูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ต่อนักลงทุน ลูกค้าและผู้ให้เงินกู้ ด้วยการนำเงินไปใช้อย่างผิด ๆเพื่อส่งเสริมความทรงอิทธิพลของตัวเขาเองในธุรกิจคริปโต รวมทั้งนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัวในการใช้ชีวิตหรูหรา
แบงก์แมน-ฟรีด ประสบปัญหาจนล้มละลาย และถูกจับกุมตัวในบาฮามาสเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ปี 2565 ตามคำขอของทางการสหรัฐ
อัยการสูงสุดของบาฮามาสออกแถลงการณ์ในช่วงเวลานั้นว่า การจับกุมตัวแบงค์แมน-ฟรีด เกิดขึ้นหลังจากทางการสหรัฐแจ้งว่าได้ยื่นฟ้องเขาในคดีอาญา โดยหน่วยงานสหรัฐและบาฮามาสได้ทำการตรวจสอบว่า แบงก์แมน-ฟรีดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มละลายของ FTX ซึ่งได้ยื่นเรื่องต่อศาลสหรัฐตามมาตรา 11 เพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลายเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ปี 2565
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากไบแนนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศยกเลิกข้อตกลงซื้อกิจการ FTX ในช่วงเวลานั้น
ด้านแบงก์แมน-ฟรีด วางแผนที่จะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาและการตัดสินโทษของเขา