’เอสเค ไฮนิกซ์‘ ผู้ผลิตชิปม้ามืด อินวิเดียเลือกใช้เพราะเทคฯล้ำหน้า'ซัมซุง'

บริษัท เอสเค ไฮนิกซ์ (SK Hynix Inc.)  ผู้ผลิตชิปจากเกาหลีใต้กำลังกลายเป็น ดาวรุ่งพุ่งแรงในอุตสาหกรรมชิปจนมีมูลค่าตลาดเกิน 1 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่นักลงทุนยังคงทุ่มเงินลงทุนเข้าสู่หุ้นของบริษัทต่างๆ ที่เป็นฟันเฟืองหลักและมีความสำคัญต่อ อุตสาหกรรม AI และผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด บริษัทอินวิเดีย( Nvidia) ผู้ผลิตชิประดับโลก เลือกใช้ชิป HBM (High-Bandwidth Memory) ของ เอสเคไฮนิกซ์ แทนชิปของ "ซัมซุง" Samsung Electronics Co. ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหญ่ และเหตุผลเดียวที่อินวิเดียเลือกเอสเคไฮนิกซ์ เพราะ เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของบริษัท และมีโอกาสที่จะขยายส่วนแบ่งตลาดอุตสาหกรรมชิปในอนาคต

ตอนนี้ราคาหุ้นผู้ผลิตชิปอย่าง SK Hynix เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการชิป HBM พุ่งสูง ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และคาดว่ายอดขายชิปแบบ HBM จะเพิ่มขึ้นจนมากกว่าชิป DRAM ด้วยคุณสมบัติที่มีความเร็วและประสิทธิภาพมากกว่า ชิป DRAM ทั่วไป  

 

ชิป HBM  หัวใจสำคัญของ AI

ควัก โน-จุง ซีอีโอ ของ SK Hynix เปิดเผยว่า "ตลาด HBM กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและในปี 2567 เราคาดว่า HBM จะคิดเป็นสัดส่วน 10% ของยอดขาย DRAM ทั้งหมดของเรา"

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า "HBM" เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ SK Hynix ครองส่วนแบ่งตลาดของชิป HBM รุ่นล่าสุด มากกว่า 90% และขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาหลีใต้

 

"เอสเค ไฮนิกซ์" อนาคตคู่แข่งสำคัญซัมซุง

แม้จะยังเป็นรองบริษัทคู่แข่งอย่างซัมซุงในแง่มูลค่าตลาด ที่ใหญ่กว่าอยู่ที่ 3.6 แสนล้านดอลลาร์ แต่หากเทียบกันเรื่อง “ศักยภาพ” ซัมซุง กลับเป็นรอง SK Hynix ในแง่การพัฒนาชิปหน่วยความจำสำหรับปัญญาประดิษฐ์ ส่งผลให้ หุ้นซัมซุง เพิ่มขึ้นเพียง 31% ในช่วงปีที่ผ่านมา

ศักยภาพของชิป HBM ทำให้ SK Hynix เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์หลักให้กับ "อินวิเดีย"  ซึ่ง SK Hynix ครองตลาดชิป HBM อยู่ในปัจจุบัน โดยเป็นผู้จัดจำหน่ายรายเดียวของรุ่น HBM3 ให้กับ Nvidia ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดชิปปัญญาประดิษฐ์อยู่ถึง 80%

SK Hynix ผู้ผลิตชิป หน่วยความจำรายใหญ่จากเกาหลีใต้ ประกาศแผนลงทุน 4 พันล้านดอลลาร์  เพื่อสร้างโรงงานประกอบชิปขั้นสูงในอินเดียนา ซึ่งเงินทุนส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจาก โครงการ Chips Act ของ รัฐบาลสหรัฐฯ ที่มุ่งส่งเสริมการผลิตชิปภายในประเทศ ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายกำลังการผลิตชิปทั่วโลกของ

ขณะเดียวกัน SK Hynix บริษัทกำลังสร้างโรงงานผลิตชิปใหม่ในประเทศจีนและเกาหลีใต้เช่นกัน โดยการขยายกำลังการผลิตของ SK Hynix เป็นการตอบสนองต่อความต้องการชิปที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก
 

 

อ้างอิง Bloomberg