“เลือกตั้งเกาหลีใต้ 2024” ชี้ชะตาการเมือง“ยุน ซอกยอล”
“เลือกตั้งเกาหลีใต้ 2024” ชี้ชะตาการเมือง“ยุน ซอกยอล” หากฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปไตย (ดีพี) ได้ชัยชนิดขาดลอย จะทำให้อำนาจผู้นำของประธานาธิบดียุนอ่อนแอลง ไม่ต่างจากการเป็นรัฐบาลเป็ดง่อยที่รอวันพ้นจากตำแหน่ง
ชาวเกาหลีใต้ออกไปลงคะแนนเสียงเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ในวันนี้ (10 เม.ย.) ท่ามกลางการฟาดฟันที่ดุเดือดของสองพรรคการเมืองใหญ่ ขณะที่พรรครัฐบาลของประธานาธิบดียุน ซอกยอล จำเป็นต้องคว้าเก้าอี้ส่วนใหญ่จากทั้งหมด 300 ที่นั่ง มิฉะนั้น เขาอาจกลายเป็นผู้นำที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวนโยบายใดๆ ได้อีก ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่เหลือในวาระการดำรงตำแหน่ง
แม้เป็นการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าสู่รัฐสภา แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นการลงประชามติต่อประธานาธิบดียุนว่าจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตรงกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศหรือไม่ โดยมีอำนาจในการคว้าเสียงข้างมากของพรรครัฐบาลเป็นเดิมพัน
เสี่ยงเป็นรัฐบาลเป็ดง่อย
หากพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ของประธานาธิบดียุนเป็นฝ่ายชนะ เขาจะสามารถเพิ่มแรงผลักดันให้กับโครงการปฏิรูปหลัก 4 โครงการ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการดูแลสุขภาพ การศึกษา แรงงาน และระบบบำนาญของประเทศ
นอกจากนี้ เขายังมองว่าชัยชนะของพรรครัฐบาล หมายถึงการที่ประชาชนเห็นด้วยกับนโยบายของเขาที่จะทำให้เกาหลีใต้มีความใกล้ชิดกับสหรัฐมากขึ้น
แต่หากฝ่ายค้านอย่าง พรรคประชาธิปไตย (ดีพี) ได้รับชัยชนะชนิดขาดลอย จะทำให้อำนาจผู้นำของประธานาธิบดียุนอ่อนแอลง ไม่ต่างจากการเป็นรัฐบาลเป็ดง่อยที่รอวันพ้นจากตำแหน่ง หรือเลวร้ายกว่านั้น การที่คือพรรคฝ่ายค้านสามารถใช้เสียงข้างมากเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง
หลายปัญหายังรอการแก้ไข
หลังผ่านพ้นวิกฤตการระบาดของโควิด-19 เกาหลีใต้ยังต้องเผชิญกับปัญหามากมายที่ไม่มีทางแก้ไขง่ายๆ เช่น เศรษฐกิจที่ชะลอตัว ราคาบ้านที่สูงเสียดฟ้า ประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่องว่างรายได้ที่กว้างขึ้น ความไม่เท่าเทียมทางเพศที่ยังคงเกิดขึ้นกับคนรุ่นใหม่ และที่น่ากังวลมากที่สุด คือภัยคุกคามทางนิวเคลียร์และขีปนาวุธที่เพิ่มมากขึ้นจากเกาหลีเหนือ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ประชาชนคาดหวังว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ไขได้
แต่การแบ่งขั้วทางการเมืองที่มีมานานของเกาหลีใต้ ทำให้นักวิเคราะห์ทางการเมืองมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากการแข่งขันกันในด้านนโยบายที่ยั่งยืน แต่เป็นการปลุกปั่นและสร้างกระแสความกลัวเพื่อบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อฝ่ายตรงข้าม กลายเป็นการที่ประชาชนต้องตัดสินใจเลือกว่า ใครมีความ ‘เลวร้าย’ น้อยกว่ากัน
ขณะที่การสำรวจช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า ชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ไม่ได้พึงพอใจกับผลงานของประธานาธิบดียุน แม้ว่าเขาจะสามารถขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศเชิงรุก เพื่อแสดงให้เห็นว่าเกาหลีใต้ สามารถก้าวเข้าไปมีส่วนร่วมในฐานะผู้เล่นสำคัญบนเวทีโลกได้ แต่กลับถูกมองว่า ละเลยการขับเคลื่อนนโยบายภายในประเทศที่มีความสำคัญต่อปากท้องและส่งผลต่อคะแนนนิยมมากกว่า
เขายังสูญเสียความนิยมครั้งใหญ่ไปกับความพยายามที่จะยุบกระทรวงความเท่าเทียมทางเพศ เพราะมองว่าผู้หญิงไม่ได้ถูกลดความสำคัญหรือกดขี่อย่างที่สังคมเข้าใจ
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจยังพบว่า ประชาชนจำนวนมากรู้สึกไม่ไว้วางใจ“อี แจ-มยอง” ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ที่กำลังถูกพิจารณาคดีในข้อหารับสินบนและข้อหาทางอาญาอื่นๆ เช่นกัน
ชิงปรับ5 รมต.ก่อนเลือกตั้ง
ที่ผ่านมา ประธานาธิบดียุน เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีคนอื่น ๆ อีก 5 ตำแหน่ง รวมเป็น 6 ตำแหน่งด้วยความหวังว่า จะช่วยหนุนคะแนนนิยมของพรรครัฐบาลก่อนที่จะมีการเลือกตั้งรัฐสภาเกาหลีใต้
"คิม แด-กี" เสนาธิการประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ชอย ซัง-มุก อดีตเลขาธิการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังและรองนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขณะที่ คัง จุง-ไอ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยสตรีซุกมยอง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกคนใหม่
นอกจากนี้ ปธน.ยุน ยังแต่งตั้งซง มิรยอง อดีตนักวิจัยอาวุโสของสถาบันเศรษฐกิจชนบทเกาหลี ขึ้นเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ,ปาร์ค ซังวู อดีตหัวหน้าฝ่ายพัฒนาที่อยู่อาศัยของบริษัทโคเรีย แลนด์ แอนด์ เฮาส์ คอร์ป เป็นรัฐมนตรีกระทรวงที่ดิน คัง โด-ฮยัง ประธานสถาบันวิทยาศาสตร์มหาสมุทรและเทคโนโลยีเกาหลี เป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาสมุทร และโอ ยอง-จู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนที่ 2 ขึ้นเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเอสเอ็มอี
ประธานาธิบดียุน ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรล่วงหน้าที่เมืองปูซาน และพยายามกระตุ้นให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ เพราะถือเป็นการเดิมพันอย่างสูงของพรรคพลังประชาชนของเขา ที่ต้องกวาดเสียงส่วนใหญ่ให้ได้จากทั้งหมด 300 ที่นั่ง
หั่นคาดการณ์จีดีพีปี67 โตแค่ 2.2%
กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2567 โดยระบุว่าจะขยายตัว 2.2% ลดลงจากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ในเดือนก.ค.ว่าจะขยายตัว 2.4% หลังจากที่ขยายตัว 1.4% ในปี 2566 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ยังคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ จะปรับตัวขึ้น 2.6% ในปี 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 2.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.6% ในปี 2566
“เศรษฐกิจเกาหลีใต้ปีนี้จะฟื้นตัวแข็งแกร่งกว่าปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการค้าและอุปสงค์เซมิคอนดักเตอร์ที่กระเตื้องขึ้นทั่วโลก แต่ยังคงเผชิญอุปสรรคจากอุปสงค์ในประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชน เนื่องจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง” กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ ระบุ