500 ตึกร้างในกัมพูชา ผลผลิตโครงการ"บีอาร์ไอ"จีน
สีหนุวิลล์ ของกัมพูชา ไม่เคยว่างเว้นจากตึกร้าง ไร้ผู้อาศัย โดยปัจจุบันนี้ มีตึกหรืิอ อาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จประมาณ 360 แห่ง และมีอีกประมาณ 170 แห่งที่สร้างเสร็จแล้วแต่ไม่มีคนอาศัย
โครงการข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง(บีอาร์ไอ)ของจีนทิ้งมรดกที่ไม่น่าอภิรมย์ชมชื่นแก่กัมพูชาเท่าใดนักนั่นคือ ตึกร้างไร้คนอาศัย 500 ตึก โดยเฉพาะในสีหนูวิลล์ เมืองรีสอร์ทชายทะเล ที่เต็มไปด้วยโครงการต่างๆที่ยังค้างคา สร้างไม่เสร็จ หลังจากบรรดานักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนพากันเก็บกระเป๋าเดินทางกลับประเทศ
โครงสร้างตึกคอนกรีตหลังหนึ่งในสิ่งปลูกสร้างร้างจำนวนมากตั้งอยู่บนที่ดินผืนหนึ่งที่เป็นของ“ปาน ซอมโบ” ครูโรงเรียนอนุบาล วัย 51 ปี
“เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงจริงๆ มองไม่เห็นอนาคตเลยว่าการก่อสร้างตึกนี้จะเสร็จเมื่ิอใด” ปาน กล่าว
ย้อนหลังไปในปี 2562 นักลงทุนชาวจีนคนแรกเดินทางมาที่นี่พร้อมข้อเสนอจะสร้างอพาร์ทเมนท์สูง 10 ชั้น ซึ่งในปีนั้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชากำลังบูม นักลงทุนชาวจีนรายนี้ ต้องการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ประมาณ 750 ตารางเมตรที่ว่างอยู่ของครูโรงเรียนอนุบาลท่านนี้
พร้อมกับคำสัญญาว่าจะสร้างอพาร์ทเมนท์ให้แล้วเสร็จภายในปี 2564 และจ่ายค่าธรรมเนียมการใช้ที่ดินให้เจ้าของที่ดินเดืือนละประมาณ 20 ล้านเรียล (5,000 ดอลลาร์)ซึ่งสูงกว่ารายได้จากงานสอนหนังสือถึง 10 เท่า ปานจึงตกลงทำโครงการนี้
เมื่อโรคโควิด-19 เกิดการระบาดใหญ่ นักลงทุนรายนี้เดินทางกลับจีน พร้อมทั้งบอกว่า ไม่สามารถเดินทางกลับมากัมพูชาได้อิีก และนี่คือข่าวคราวสุดท้ายที่ปานได้รับรู้เกี่ยวกับนักลงทุนจีนรายนี้ ปาน จึงหันหน้าไปพึ่งรัฐบาลเพื่ิอเริ่มต้นกระบวนการยกเลิกสัญญาโครงการก่อสร้างอพาร์ตเมนท์
ข้อมูลของทางการกัมพูชา ระบุว่า เมืองสีหนุวิลล์ไม่เคยว่างเว้นจากตึกร้าง ไร้ผู้คนอาศัย โดยปัจจุบันนี้ มีตึกหรืิอ อาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จประมาณ 360 แห่ง และมีอีกประมาณ 170 แห่งที่สร้างเสร็จแล้วแต่ไม่มีคนอาศัย
ด้วยความที่สีหนุวิลล์ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีบริเวณอ่าวไทย จึงไม่น่าแปลกที่เศรษฐกิจเมืองนี้บูมมากในช่วงกลางทศวรรษ2010 ด้วยกระแสเงินทุนจากจีน และกัมพูชาก็แสวงหาการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศด้วยการอ้าแขนรับโครงการริเริ่มบีอาร์ไอของจีน
“พรินซ์ เรียล เอสเตท กรุ๊ป” บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กัมพูชา เริ่มโครงการก่อสร้างหลายโครงการด้วยกัน รวมถึง โรงแรมหรูและช็อปปิ้งมอลล์ในสีหนุวิลล์ ที่ถูกเรียกขานว่าเป็นมาเก๊าแห่งที่สองในฐานะที่เป็นศูนย์รวมกาสิโนหลายสิบแห่ง
กระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชา ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว กัมพูชารองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนเพียงแค่ 550,000 คน ลดลง 77% จากปี 2562 และมีผู้โดยสารแค่ 15,754 คนเท่านั้นที่เดินทางมาสีหนุวิลล์ ลดลงจากปี 2562 มากถึง 98%
ตัวเลขนักเดินทางเข้าสีหนุวิลล์สวนทางอย่างสิ้นเชิงกับจำนวนนักเดินทางหรือ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเสียมราฐ ที่ตั้งของนครวัด ซึ่งได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
กระแสเงินทุนที่หลั่งไหลไปสู่สีหนุวิลล์ชะลอตัวลง หลังจากเกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 สืบเนื่ิองจากรัฐบาลกัมพูชาปราบปรามกาสิโน ประกอบกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจีนตกต่ำ ขณะที่ข้อมูลของทางการกัมพูชา ประเมินว่า ต้องใช้เงินอีก 1,100 ล้านดอลลาร์เพื่อสานต่อโครงการก่อสร้างที่ยังคั่งค้างให้เสร็จ
เมื่อเดือนม.ค. นายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ตของกัมพูชา ประกาศแผนแก้ปัญหาเรื่องนี้ รวมทั้งให้วีซ่าพิเศษและสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่นักลงทุนที่ซื้ออาคารมูลค่ามากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องซ่อมแซมและบำรุงรักษาอาคารเหล่านี้ด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชายังยืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชาจะทำให้สีหนุวิลล์น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น ด้วยนโยบายเขตปลอดภาษี และเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนส่งเสริมการสร้างรีสอร์ตและบริการอื่นๆ สำหรับนักท่องเที่ยว และดำเนินการอย่างจริงจังมากขึ้นเพื่อป้องกันอาชญากรรม
แต่ผู้เชี่ยวชาญอย่าง“กาย เซเรย์วัท” ผู้อำนวยการสถาบันจีนศึกษาของโรยัล อะคาเดมี ออฟ แคมโบเดีย มองว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายและเป็นความท้าทายอย่างมากที่จะแก้ปัญหานี้ เนื่องจากตอนนี้โลกกำลังเผชิญภาวะขาลงทางเศรษฐกิจ
บรรดานักลงทุนชาวจีนต่างพากันเข้าไปลงทุนในหลายประเทศอาเซียน และทำให้ประเทศเหล่านี้ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงเมื่อทั่วโลก รวมทั้งจีนกำลังมีปัญหาทางเศรษฐกิจ และกัมพูชาก็ไม่ใช่ตัวอย่างเดียวของเรื่องนี้ วิกฤตหนี้ของคันทรี การ์เด็น โฮลดิงส์ ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์จีนก็สร้างผลกระทบในทางลบไปถึงมาเลเซีย ทำให้โครงการพัฒนามิกซ์ยูสมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในรัฐยะโฮร์อยู่ในภาวะชะงักงันด้วยเช่นกัน
กัมพูชาพึ่งพากระแสเงินทุนจากจีนอย่างมาก โดยในปี 2565 สภาเพื่อการพัฒนาของกัมพูชา อนุมัติการลงทุนของต่างชาติมูลค่าประมาณ 1,900 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้ ประมาณ 90% เป็นทุนจากจีน
“เป็นเรื่องยากที่จะแก้ปัญหาที่กลุ่มทุนจีนทำเอาไว้ในกัมพูชา โดยพึ่งพากลุ่มทุนจากประเทศอื่น” ผู้จัดการบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งของกัมพูชา กล่าว
ด้าน Long Dimanche รองผู้ว่าฯจังหวัดพระสีหนุ กล่าวว่า จำเป็นต้องปรับปรุงสีหนุวิลล์ให้มีความหลากหลายทั้งในด้านอุตสาหกรรมและประเทศที่ต้องการเข้ามาลงทุนเพื่ิอให้เศรษฐกิจของจังหวัดขับเคลื่อนไปได้ดีกว่านี้ ที่ผ่านมา รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ตก็มีนโยบายเปิดกว้างรับการลงทุนจากต่างชาติเต็มที่
“มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเป็นบริษัทญี่ปุ่น ทุกวันนี้ บริษัทญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในกัมพูชาน้อยกว่าบริษัทจากไทย หรือ เวียดนาม แต่ญี่ปุ่นให้กรสนับสนุนโครงการสร้างท่าเรือสีหนุวิลล์ ท่าเรือน้ำลึกแห่งเดียวของกัมพูชาเมื่อประมาณ30ปีก่อน”รองผู้ว่าฯ กล่าว