'ประธานรัฐสภาเวียดนาม' ลาออก เซ่นปมกวาดล้างคอร์รัปชั่นสะท้านการเมือง
'ประธานรัฐสภาเวียดนาม' ประกาศลาออกเป็นรายล่าสุด ตามมาติดๆ หลังประธานาธิบดี นับเป็น 1 ใน 4 หัวเสาหลักการเมืองที่ต้องออกภายใน 5 สัปดาห์นี้ ท่ามกลางการกวาดล้างคอร์รัปชั่นที่สะเทือนขั้วการเมือง
ประธานรัฐสภาเวียดนาม "เวือง ดิ่งห์ เหวะ" (Vuong Dinh Hue) ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ผู้ช่วยของเขาถูกจับกุมเกี่ยวกับคดีรับสินบน ทำให้เหวะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายที่ 2 แล้วที่ต้องออกจากตำแหน่งภายในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตามหลังอดีตประธานาธิบดีเวียดนาม
รอยเตอร์รายงานว่า ตำแหน่งประธานรัฐสภาของเวียดนามนั้น ถือเป็น 1 ใน 4 เสาหลักของโครงสร้างอำนาจการบริหารประเทศของเวียดนาม โดยเรียงตามลำดับความสำคัญประกอบด้วย เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และประธานรัฐสภา
แถลงการณ์ในเว็บไซต์ของรัฐบาลเวียดนามระบุว่า เหวะลาออกจากตำแหน่งประธานรัฐสภาและลาออกจากโปลิตบูโร โดยให้เหตุผลว่าได้ละเมิดกฎเกี่ยวกับการควบคุมดูแลพฤติกรรมของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ และขอแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้นำ ซึ่งการละเมิดกฎในครั้งนี้ทำให้สาธารณชนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางลบ และกระทบต่อชื่อเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์
การลาออกของเหวะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังผู้ช่วยของเขาถูกจับกุมเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ในข้อหาเกี่ยวกับการติดสินบนในบริษัทโครงสร้างพื้นฐาน และยังนับเป็นผู้บริหารระดับสูงสุดรายที่ 2 ที่ลาออกภายในเวลาห่างกันเพียง 5 สัปดาห์ หลังจากอดีตประธานาธิบดี หวอ วัน เถือง (Vo Van Thuong) ลาออกเมื่อช่วงปลายเดือน มี.ค. 2567 ทั้งที่เพิ่งดำรงตำแหน่งได้เพียง 1 ปี โดยคาดว่าเถืองถูกกดดันให้ลาออกเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีคอร์รัปชันใน จ.กว่างหงาย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยอยู่ในความรับผิดชอบของประธานาธิบดีมาก่อน
ก่อนหน้านี้ อดีตประธานาธิบดี เหวียน ซวน ฟุก (Nguyen Xuan Phuc) ก็ถูกกดดันให้ลาออกในเดือน ม.ค. 2566 จากคดีการคอร์รัปชั่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการในช่วงโควิดของผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา
ทั้งนี้ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ "เหวียน ฝู จ่อง" (Nguyen Phu Trong) ได้ดำเนินการกวาดล้างคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่ในประเทศ และทำให้มีผู้ถูกจับกุมไปมากถึงกว่า 459 คน ทั้งสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ไปจนถึงบรรดานักธุกิจและเเศรษฐีคนดังในเวียดนาม โดยเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ เจือง มี ลัน นักธุรกิจดังที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์และเจ้าของที่แท้จริงของธนาคารไซ่ง่อน คอมเมอร์เชียล (SCB) ได้ถูกตัดสิน "ประหารชีวิต" จากความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงครั้งใหญ่ที่สุดในเวียดนาม แต่ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าตัวได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินแล้ว