ชาวอิสราเอลทั่วประเทศสงบนิ่ง รำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว
ชาวอิสราเอลทั่วประเทศสงบนิ่ง เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวเมื่อหลายสิบปีก่อน ด้านปาเลสไตน์เตือนอิสราเอลหากโจมตีภาคพื้นดินเมืองราฟาห์อาจเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ชาวอิสราเอลสงบนิ่งทั่วประเทศเพื่อรำลึกเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวเมื่อหลายสิบปีก่อน ในช่วงเช้าของวันจันทร์(6 พ.ค.)ขณะที่ประเทศกำลังอยู่ในช่วงสงคราม หลังเหตุการณ์ฮามาสบุกสังหารโหด ที่คร่าชีวิตชาวอิสราเอลเมื่อปลายปีที่แล้ว
ชาวอิสราเอลร่วมยืนสงบนิ่งท่ามกลางเสียงไซเรนนาน 2 นาทีทั่วประเทศในเวลา 10.00 น. เมื่อวันจันทร์(6 พ.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องในวันรำลึกการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Holocaust Remembrance day) เพื่อรำลึกถึงชาวยิว 6 ล้านคนที่ถูกสังหารโดยกองทัพนาซีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซ็อก ร่วมวางพวงหรีดที่พิพิธภัณฑ์รำลึกการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยาด วาเชม ในนครเยรูซาเลม
นอกจากนี้ ทหารจำนวนหนึ่งร่วมสงบนิ่งที่สถานที่จัดคอนเสิร์ต ในคิบบุตซ์เรอิม ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุนองเลือดที่สุดจากการโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566
เมื่อวันอาทิตย์(5พ.ค.) นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูมีถ้อยแถลงเนื่องในวันรำลึกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวที่ศูนย์รำลึกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวยาด วาเชม โดยให้คำมั่นว่า จะปกป้องอิสราเอลจากศัตรูที่จ้องทำลายล้าง และอิสราเอลจะพิชิตศัตรูฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก
พิธีรำลึกในปีนี้มีขึ้นในขณะที่อิสราเอลกำลังทำสงครามกวาดล้างฮามาสในฉนวนกาซา เพื่อตอบโต้ที่ฮามาสบุกสังหารชาวอิสราเอลราว 1,200 คน และจับตัวประกัน 252 คน เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566
ขณะเดียวกัน นายนาบิล อาบู รูเดเนห์ โฆษกของประธานาธิบดีปาเลสไตน์ แถลงว่า อิสราเอลกำลังเตรียมตัวก่ออาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งใหญ่ที่สุดด้วยการรุกรานเมืองราฟาห์ พร้อมกับระบุว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาต้องรับผิดชอบต่อการที่อิสราเอลดำเนินนโยบายที่อันตรายเช่นนี้
เขากล่าวว่า การรุกรานเมืองราฟาห์จะทำให้พลเรือนชาวปาเลสไตน์มากถึง 1.4 ล้านคนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ "การพลัดถิ่นและการสังหารหมู่เพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐดำเนินการทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ตลอดจนให้อิสราเอลรับผิดชอบต่อการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อิสราเอลมองว่าเมืองราฟาห์เป็นฐานที่มั่นสำคัญแห่งสุดท้ายของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา แต่ในขณะเดียวกัน เมืองราฟาห์ก็เป็นที่พักพิงของชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่นมากถึง 1.4 ล้านคน