ต่อลมหายใจอสังหาฯ จีน Country Garden ศาลเลื่อนพิพากษา 'ปิดกิจการ' ไป 11 มิ.ย.
ศาลฮ่องกงเลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีร้องขอปิดกิจการยักษ์อสังหาฯ จีน 'Country Garden' ตามรอยเคส 'ไชน่า เอเวอร์แกรนด์' ลุ้นอีกที 11 มิ.ย. นี้
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ศาลในฮ่องกงได้เลื่อนการอ่านคำพิพากษากรณีการร้องขอปิดกิจการบริษัท "คันทรี การ์เดน" (Country Garden) ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในจีน ออกไปเป็นวันที่ 11 มิ.ย. นี้ ซึ่งนับเป็นการต่อลมหายใจให้เอกชนจีนในขณะที่รัฐบาลปักกิ่งกำลังพยายามฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทแห่งหนึ่งในฮ่องกงได้ยื่นฟ้องศาลเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ขอให้ศาลมีคำสั่งเลิกกิจการคันทรี การ์เดน ในฮ่องกง หลังจากที่ยักษ์อสังหารายนี้ค้างชำระหนี้อยู่ 205 ล้านดอลลาร์ โดยคันทรี การ์เดนผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้สกุลต่างประเทศ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ในต่างประเทศ
รายงานระบุว่า คันทรี การ์เดนร้องขอการเลื่อนพิจารณาคดีออกไปเพื่อขอเวลาในการเตรียมเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งหากบริษัทสามารถแสดงความคืบหน้าในการเจรจากับเจ้าหนี้ต่างประเทศภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ ก็อาจช่วยให้รอดจากคำสังปิดกิจการในฮ่องกงได้
ก่อนหน้านี้ บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป (China Evergrande) ซึ่งเป็นอดีตบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ที่สุดในจีน ได้ถูกศาลสั่งเลิกกิจการในฮ่องกงไปเมื่อเดือน ม.ค.ปีนี้ หลังจากไม่มีความคืบหน้ามากพอในการเจรจากับเจ้าหนี้ ซึ่งศาลได้แต่งตั้งผู้ชำระบัญชีทำหน้าที่จัดการขายทรัพย์สินของบริษัทเพื่อนำมาใช้หนี้ต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการอสังหาฯ และทรัพย์สินส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ในประเทศจีน ดังนั้นคำสั่งของศาลฮ่องกงจึงอาจไม่มีผลต่อทรัพย์สินในจีนมากนัก
อสังหาฯ จีนยังน่ากังวล ราคาบ้านใหม่ดิ่งหนักสุดรอบ 9 ปี
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่าราคาบ้านใหม่ในจีนเดือน เม.ย.ลดลง 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 9 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2557 และย่ำแย่กว่าในเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวลง 0.3%
ทั้งนี้ ราคาบ้านใหม่ของจีนปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลจีน เนื่องจากความพยายามในการฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ส่งสัญญาณว่า ความพยายามดังกล่าวใช้ได้ผล
เมื่อเทียบเป็นรายปี ราคาบ้านใหม่ของจีนลดลง 3.1% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2558 และย่ำแย่กว่าในเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวลง 2.2%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลจีนได้ใช้ความพยายามนับตั้งแต่ปี 2565 ในการฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอ โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของระบบเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แต่การฟื้นตัวของภาคส่วนนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก