เปิดมาตรการ 'จีน' ปูพรมสู้วิกฤติอสังหาฯ เข็นงบ 3 แสนล้านหยวนช่วยซื้อบ้าน
จีนประกาศมาตรการสู้วิกฤติอสังหาฯ ครั้งประวัติศาสตร์! แบงก์ชาติอัดงบ 3 แสนล้านหยวน ช่วยท้องถิ่นซื้อบ้านขายไม่ออกทั่วประเทศเอามาทำที่อยู่อาศัยราคาถูก พร้อมยกเลิกดอกเบี้ยขั้นต่ำ-ลดเงินดาวน์ หวังพลิกฟื้นตลาดบ้านที่ซบยาวกว่า 3 ปี
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ทางการจีนได้ประกาศมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ครั้งประวัติศาสตร์ โดยเป็นการออกแผนกู้วิกฤติภาคอสังหาฯ หลายขนานไปพร้อมกัน ตั้งแต่การอัดงบช่วยซื้อบ้าน ไปจนถึงการอุดหนุนเพื่อลดดอกเบี้ยและผ่อนปรนเกณฑ์การซื้อ เพื่อหวังพลิกฟื้นภาคอสังหาฯ ที่เคยมีสัดส่วนสูงถึง 30% ของขนาดเศรษฐกิจประเทศจีน
ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศตั้งกองทุน 3 แสนล้านหยวน (ราว 1.5 ล้านล้านบาท) เพื่อสนับสนุนโครงการที่อยู่อาศัยราคาถูกของรัฐ โดยจะช่วยสนับสนุนเงินกู้ให้รัฐวิสาหกิจ (SOE) ท้องถิ่นจีนไปซื้อโครงการบ้านที่ขายไม่ออกทั่วประเทศ เพื่อนำไปพัฒนาเป็นโครงการบ้านเพื่อผู้มีรายได้น้อยต่อไป
ก่อนหน้านี้รองนายกรัฐมนตรี เหอ ลี่เฟิง ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า โครงการนี้จะช่วยให้ทางการท้องถิ่นของจีนสามารถซื้อโครงการอสังหาฯ ในราคาที่เหมาะสมได้ และขายให้ประชาชนในราคาที่เข้าถึงได้ต่อไป แต่เหอยังไม่ได้ระบุรายละเอียดจำนวนโครงการ หรือกรอบระยะเวลาดังกล่าว
รองนายกฯ จีนยังย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องเร่งผลักดันการเดินหน้า 3 โครงการใหญ่ซึ่งประกอบด้วย โครงการที่อยู่อาศัยราคาถูก การรีโนเวตเมือง และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
ยกเลิกดอกเบี้ยขั้นต่ำ-ลดเงินดาวน์เหลือ 15%
PBOC ยังประกาศ "ยกเลิก" ดอกเบี้ยเงินกู้บ้านขั้นต่ำทั่วประเทศ พร้อมลดเงินดาวน์ขั้นต่ำสำหรับกู้ซื้อบ้านหลังแรกจาก 20% เหลือ 15% และลดเงินดาวน์ขั้นต่ำสำหรับกู้ซื้อบ้านหลังที่สองจาก 30% เหลือ 25% นอกจากนี้ ยังลดดอกเบี้ยเงินกู้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้านที่อยู่อาศัยลงอีก 0.25%
ก่อนหน้านี้ จีนได้เริ่มการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านขั้นต่ำทั่วประเทศมาแล้วตั้งแต่ปี 2565 และเปิดทางให้เมืองที่เจอวิกฤติอสังหาฯ หนักเป็นพิเศษสามารถกำหนดอัตราขั้นต่ำของตนเองได้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านขั้นต่ำทั่วประเทศโดยเฉลี่ยในไตรมาส 1 ปีนี้ เหลือเพียง 3.69% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่สถิติในปี 2552 เป็นต้นมา แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยฟื้นดีมานด์ความต้องการซื้อบ้านได้มากพอ
ทั้งนี้ ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ใหม่ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ระหว่างเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 ปรับตัวลดลงถึง 28.3% จากปีก่อน และลดลงต่อเนื่องจากตัวเลขสามเดือนแรกที่ดิ่งลง 27.6% ส่วนราคาบ้านใหม่ในเดือนเม.ย. ปรับตัวลดลง 0.6% ซึ่งเป็นอัตราลดลงเร็วที่สุดในรอบ 10 ปี และยังเป็นการลดลงเดือนที่ 10 ติดต่อกันแล้ว
ขณะที่ตัวเลขการลงทุนในภาคอสังหาฯ ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ก็ปรับตัวลงถึง 9.8% ซึ่งลดลงต่อเนื่องจากตัวเลข 9.5% ในช่วง 3 เดือนแรก
"ข่าวร้ายเหล่านี้ดูจะเป็นสัญญาณกระตุ้นให้เห็นความเร่งด่วนที่รัฐบาลจีนต้องใช้มาตรการที่แรงพอ เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นผลขึ้นมา" ทีมนักวิเคราะห์ธนาคารโซซิเอเต เจเนราล (ซอกเจน) ระบุในข้อความถึงนักลงทุน