‘จีน’ตอบโต้สงครามการค้า เร่งสอบกรณีพลาสติกทุ่มตลาด ชี้’ยุโรป-สหรัฐ’ขายตัดราคา
‘จีน’ รุกกลับ เปิดสอบสวนการทุ่มตลาดพลาสติก POM กับ ‘ยุโรป สหรัฐ ญี่ปุ่น และไต้หวัน’ นักวิเคราะห์หวั่นการตอบโต้อาจทำให้ภาษีพลาสติก’ พุ่งทะยาน
จีนเปิดการสอบสวน"การทุ่มตลาดพลาสติก" ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้ากับสหรัฐและสหภาพยุโรป(EU) โดยสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ของจีนเริ่มสอบสวนกรณีการทุ่มตลาดของพลาสติก POM ชนิดพอลิเมอร์ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งถูกนำเข้าจาก 4 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ สหรัฐ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และไต้หวัน
การสอบสวนดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2567 ซึ่งคาดว่า การสอบสวนจะแล้วเสร็จภายใน 1 ปี แต่ก็อาจขยายเวลาออกไปได้อีก 6 เดือน
แม้ว่ายังไม่ทราบผลลัพธ์ของการสอบสวนที่แน่ชัด แต่มีโอกาสที่ผู้ผลิตพลาสติก POM ในยุโรป สหรัฐ ญี่ปุ่น และไต้หวัน จะต้องเผชิญกับ “ภาษี”เพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าที่ส่งออกไปยังจีน และทำให้ราคาพลาสติก POM ในจีนสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่ใช้พลาสติกประเภทนี้
จีนอ้างว่าผู้ผลิตในประเทศเหล่านี้ กำลังขายพลาสติก POM ในราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิตในประเทศจีน โดยกระทรวงระบุในแถลงการณ์ว่า พลาสติกชนิดนี้สามารถทดแทนโลหะบางชนิด เช่น ทองแดงและสังกะสี ได้บางส่วน ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วย
สำนักงานคณะกรรมาธิการยุโรป (The European Commission) ซึ่งกำกับดูแลนโยบายการค้าของสหภาพยุโรป กล่าวว่า จะศึกษาเนื้อหาของการสอบสวนอย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจดำเนินการใด ๆ ต่อไป
"เราคาดหวังให้จีนดำเนินการสอบสวนนี้ โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อผูกพันที่เกี่ยวข้องทั้งหมดขององค์การการค้าโลก (WTO)" โฆษกของสำนักงานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าว
'จีน'รุกกลับ ตอบโต้ทางการค้า
ก่อนหน้านี้(14 พ.ค.) ทางรัฐบาลสหรัฐ ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนหลายรายการครั้งใหญ่ รวมไปถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ชิปคอมพิวเตอร์ เวชภัณฑ์ และสินค้าอื่นๆ ที่นำเข้าจากจีน
ดังนั้น การเปิดการสอบสวนทุ่มตลาดของจีนในครั้งนี้ อาจเป็นการตอบโต้สหรัฐ ที่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน ทั้งนี้ สถานการณ์ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีน สหรัฐฯ และยุโรป ยังคงน่าจับตาอย่างต่อเนื่อง
ทางสหภาพยุโรป ได้เปิดการสอบสวนการค้าเกี่ยวกับเหล็กเคลือบดีบุก (tinplate steel) จากจีน ในวันศุกร์ที่แล้ว (17 พ.ค.67) ซึ่งถือเป็นการตอบโต้ครั้งล่าสุดจากฝั่งของอียู ผ่านการสอบสวนการค้าและการอุดหนุนสินค้าส่งออกของจีนจากสหภาพยุโรปที่น่าจับตามากที่สุด
รวมทั้งอียูได้มีการเปิดการสอบสวนเมื่อกันยายนปีที่แล้ว เดี่ยวกับรถไฟฟ้าที่ผลิตจากจีน เพื่อตัดสินใจว่าจะกำหนดภาษีลงโทษกับรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกกว่าจากจีนหรือไม่ โดยสหภาพยุโรปสงสัยว่ารถยนต์เหล่านี้ได้รับประโยชน์จากการอุดหนุนของรัฐบาลจีน นำไปสู่ความไม่เป็นธรรมทางการค้า
ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งได้โต้แย้งว่า การที่สหรัฐและยุโรป มุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจอื่น ๆ จากกำลังการผลิตส่วนเกินของจีนนั้นเป็นการเข้าใจผิด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จีนกล่าวว่า
“คำวิจารณ์ดังกล่าว ประเมินความสามารถในการคิดค้นนวัตกรรมของบริษัทจีนในอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ ต่ำไป และประเมินความสำคัญของการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนต่อการเติบโตของบริษัทเหล่านั้น สูงเกินไป”
อ้างอิง reuters