"ริชี ซูนัก"ขอโทษ หน่วยงานรัฐปิดข้อมูลติดเชื้อในกระแสเลือดกว่า 30,000 เคส
นายกรัฐมนตรีริชี ซูนัก นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวขอโทษกรณีหน่วยงานในอังกฤษ เจตนาปิดข้อมูลติดเชื้อในกระแสเลือดกว่า 30,000 เคส พร้อมยืนยันเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกคน
รายงานการสอบสวนคดีติดเชื้อในกระแสเลือดจำนวนมาก เมื่อปี 2513-2533 ระบุว่า รัฐบาลและหน่วยงานสาธารณสุขในสหราชอาณาจักร จงใจปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับเลือดที่ปนเปื้อน ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อจากไวรัส อาทิ เอชไอวีและไวรัสตับอักเสบ ประมาณ 30,000 ราย และผู้เสียชีวิตประมาณ 3,000 ราย
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า รัฐบาลและหน่วยงานสาธารณสุขของสหราชอาณาจักรมีเจตนาทำให้ผู้ป่วยหลายหมื่นราย ติดเชื้อร้ายแรงผ่านทางเลือดและผลิตภัณฑ์ปนเปื้อนเลือดที่ติดเชื้อ และปกปิดความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาหลายทศวรรษ จนกระทั่งมีการสอบสวนเกิดขึ้น
ผู้ป่วยที่รอดชีวิตหลายคนมีอาการป่วยไปตลอดชีวิต ถือเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของหน่วยงานบริการสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นเอชเอส) ของสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2491
นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวถึงเรื่องนี้โดยระบุว่า เป็นวันแห่งความอับอายของประเทศ และผลการสอบสวนนี้สะท้อนว่ารัฐมนตรีและสถาบันต่าง ๆ ล้มเหลวอย่างเลวร้ายและน่าสยดสยองที่สุด
"ผมต้องขอโทษอย่างมากสำหรับเหตุการณ์อยุติธรรมอันเลวร้ายนี้ และขอยืนยันว่า ภาครัฐจะชดใช้ค่าเสียหายเต็มจำนวน ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ" ซูนัก กล่าว
เหยื่อในเหตุการณ์นี้ประกอบไปด้วยผู้ต้องการถ่ายเลือดจากอุบัติเหตุและระหว่างการผ่าตัด และผู้ที่ป่วยเป็นโรคเลือด เช่น โรคฮีโมฟีเลีย หรือโรคเลือดออกง่ายหยุดยาก ซึ่งต้องรักษาด้วยพลาสมาในเลือดที่ได้จากการรับบริจาค