อิสราเอลเดินหน้าสู้ต่อ! เมินคำสั่งศาลโลก
เหล่ารัฐมนตรีอิสราเอลเมินคำพิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ให้ยุติปฏิบัติการทางทหารในเมืองราฟาห์ ลั่นเดินหน้าสู้เพื่อปล่อยตัวประกันและกำราบฮามาส
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ตามที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) มีคำพิพากษาเมื่อวันศุกร์ (2 พ.ค.) ให้ยุติการสู้รบในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของกาซา ถือเป็นท่าทีล่าสุดหวังโดดเดี่ยวอิสราเอลในประชาคมโลกมากขึ้นคดีนี้ดำเนินไปตามข้อกล่าวหาของแอฟริกาใต้ที่ว่าอิสราเอลกำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา
สำนักนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูแถลงปฏิเสธ โดยระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าว “บิดเบือน น่ารังเกียจ ไร้จริยธรรม”
“อิสราเอลกระทำการบนสิทธิในการปกป้องดินแดนและพลเมืองของตน เป็นไปตามค่านิยมทางจริยธรรมและสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ”
ปฏิบัติการในราฟาห์จะไม่ทำในลักษณะที่ “อาจสร้างความเสียหายต่อเงื่อนไขการดำรงชีวิตของพลเรือนปาเลสไตน์ในกาซา ที่อาจนำมาซึ่งความเสียหายทางกายภาพทั้งหมดหรือบางส่วน”
ทั้งนี้ สงครามที่เริ่มต้นจากฮามาสบุกเข้าไปโจมตีชุมชนรอบกาซา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2566 เป็นเหตุให้อิสราเอลร้าวฉานกับประเทศทั่วโลกจำนวนมาก และเกิดความตึงเครียดอย่างหนักระหว่างรัฐบาลเนทันยาฮูกับพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดรวมถึงสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ผลในทางปฏิบัติต่อนโยบายของอิสราเอลน่าจะมีไม่มากนัก นอกเหนือไปจากกระตุ้นความรู้สึกท้าทายของอิสราเอลที่เกิดขึ้นแล้วหลังอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ของหมายจับนายกฯ เนทันยาฮู และนายโยอาฟ แกลแลนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
นายอิตามาร์ เบนกวีร์ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายใน ผู้นำพรรคศาสนาชาตินิยม พันธมิตรสำคัญต่อเสถียรภาพของรัฐบาลผสมเนทันยาฮูไม่สนใจคำพิพากษา โพสต์แพลตฟอร์ม X อ้างคำพูดอันโดดเด่นของเดวิด เบน กูริออน นายกฯ คนแรกของอิสราเอล
“อนาคตของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คนต่างชาติพูด แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คนยิวทำ”
นายเบนนี แกนต์ซ หนึ่งในคณะรัฐมนตรีสงครามคุยกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐว่า หลังการโจมตีวันที่ 7 ต.ค. อิสราเอลได้กำหนด “การสู้รบที่จำเป็นและเป็นธรรม” และจะทำต่อไปแม้มีคำพิพากษา
“รัฐอิสราเอลจะต่อสู้ต่อไปเพื่อนำตัวประกันกลับมาและทำให้พลเมืองมั่นคงปลอดภัย สู้ทุกที่ทุกเวลาถ้าจำเป็นรวมทั้งในราฟาห์” แถลงการณ์นายแกนต์ซระบุ