แบรนด์จีน 'Shein' งานเข้า รอบนี้ 'เกาหลีใต้' พบสารเคมีอันตราย 400 เท่า!
รัฐบาล‘เกาหลีใต้’ สุ่มตรวจสินค้า Shein เกินครึ่งพบสารเคมีอันตราย ‘สารพทาเลต’ เกินมาตรฐานกว่า 400 เท่า รวมถึงสินค้าเด็ก ล้วนเป็นพิษต่อร่างกาย
เว็บไซต์สเตรทไทม์สรายงานว่ารัฐบาลเกาหลีใต้ ประกาศเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ว่าผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่จำหน่ายโดย “ชีอิน” (Shein) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีน มีสารพิษปริมาณสูงเกินกว่ามาตรฐานที่ยอมรับได้หลายร้อยเท่า
Shein ถูกสหภาพยุโรป (EU)และเกาหลีใต้ ตรวจสอบแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจและมาตรฐานความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่เสื้อผ้าและเครื่องประดับของแบรนด์เติบโตอย่างรวดเร็วเพราะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกเพราะกลยุทธ์สินค้าราคาถูก และก่อนหน้านี้เคยถูกสอบกรณีเกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานที่ไม่เป็นธรรมในเขตปกครองตนเองซินเจียง-อุยกูร์มาแล้ว
ในการตรวจสอบรอบล่าสุด ทางการกรุงโซลได้เลือกสินค้า 8 รายการที่ Shein จำหน่ายมาตรวจสอบ ซึ่งรวมถึงรองเท้าเด็ก กระเป๋าหนัง และเข็มขัด ผลการตรวจพบว่า โดยพบว่าสินค้าหลายรายการมีปริมาณสารพทาเลต (phthalates) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้ในการทำให้พลาสติกนิ่ม สูงเกินค่ามาตรฐาน
สำหรับการสุ่มตรวจพบว่า รองเท้าคู่หนึ่งมีปริมาณพทาเลตสูงเกินค่ามาตรฐานถึง 428 เท่า ซึ่งถือเป็นปริมาณสูงสุดที่เคยพบในการตรวจสอบสินค้าของ Shein ในเกาหลี นอกจากนี้ ยังพบกระเป๋าอีกสามใบที่มีปริมาณพทาเลตสูงเกินค่ามาตรฐานถึง 153 เท่า
สารพทาเลตเป็นสารเคมีที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในการทำให้พลาสติกนิ่ม พบได้ในผลิตภัณฑ์หลายประเภท เช่น บรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และของเล่น
ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบสินค้าไปแล้ว 93 รายการ โดยพบว่าเกือบครึ่งหนึ่งมีสารพิษ ซึ่งรวมถึงสินค้าเด็กอย่างนาฬิกาเด็กและดินสอสี
ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้มีการค้นพบว่าสารพทาเลตสามารถรบกวนระบบฮอร์โมน และอาจส่งผลต่อสุขภาพหลายด้าน เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจบางชนิด โรคมะเร็งบางชนิด และปัญหาภาวะมีบุตรยาก
พัค ซอง จิน เจ้าหน้าที่จากรัฐบาลกล่าวว่า รัฐบาลได้มีการเรียกร้องให้หยุดจำหน่ายสินค้าเหล่านี้ และนับตั้งแต่กรุงโซลเริ่มต้นการตรวจสอบสินค้าตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่ก็ได้ดำเนินการตามคำขอดังกล่าว
ขณะเดียวกัน เอเอฟพีได้ติดต่อขอความเห็นจาก Shein แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้เพิ่ม Shein เข้าไปอยู่ในรายชื่อบริษัทดิจิทัลขนาดใหญ่ที่ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งรวมถึงมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะสินค้าที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก