สงครามราคากาแฟจีนเดือด! Cotti Coffee ลุยหั่นราคา ทำ Starbucks กำไรลด

สงครามราคากาแฟจีนเดือด! Cotti Coffee ลุยหั่นราคา ทำ Starbucks กำไรลด

ตลาดธุรกิจกาแฟในประเทศจีนกำลังเผชิญกับความกดดันหลังจาก Cotti Coffee แบรนด์กาแฟราคาประหยัด ทำคู่แข่งอย่าง Luckin Coffee และ Starbucks กำไรหด

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (30 พ.ค.) ว่า ตลาดธุรกิจกาแฟในประเทศจีนกำลังเผชิญกับแรงกดดันหลังจาก Cotti Coffee แบรนด์กาแฟราคาประหยัด เปิดตัวโปรโมชันขายเครื่องดื่มในราคาต่ำกว่า 10 หยวน หรือประมาณ 1.40 ดอลลาร์ ในขณะที่ Luckin Coffee ผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรมพยายามตอกย้ำกลยุทธ์เพื่อแข่งขันตอบโต้

ป้ายโปรโมชันของร้าน Cotti Coffee ในย่านธุรกิจกวางโจวเมื่อปลายเดือนพ.ค.ระบุว่า "ลองกาแฟรสชาติดีในราคาเพียง 9.9 หยวน" โดยตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา แบรนด์ราคาประหยัดดังกล่าวพยายามนำเสนอผลิตภัณฑ์ในราคานี้แบบจำกัดช่วงเวลา

Cotti Coffee จัดโปรโมชันราคา 9.9 หยวนมาตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ.จนถึงสิ้นเดือน พ.ค. แม้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชันในเดือนมิ.ย. และอนาคต แต่ถือว่าราคาปัจจุบันเป็นราคาที่ต่ำที่สุดในตลาดกาแฟ อีกทั้งปัจจุบันมีคูปองราคา 8.8 หยวนสำหรับเครื่องดื่มบางชนิดที่เปิดขายในสื่อสังคมออนไลน์

ดังนั้น Cotti Coffee จึงถือว่าขายกาแฟในราคาต่ำกว่าคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Luckin Coffee ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดในจีน โดยราคานี้ต่ำกว่าเครื่องดื่มของ Starbucks ที่ขายราวๆ 30 หยวนต่อแก้วอย่างมาก

ขณะที่ลักษมัน นราสิมัน (Laxman Narasimhan) ผู้บริหาร Starbucks ระบุว่า "ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้น่าผิดหวังและไม่เป็นไปตามความคาด" โดยบริษัทฯ ประสบการสภาวะรายได้ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ไตรมาส หลังยอดขายสาขาเดิมที่มีอยู่ในจีนร่วงลง 11%

ทั้งนี้ เครื่องดื่มชงจาก Cotti Coffee มีความคุ้มค่าเทียบเท่ากาแฟที่ร้านสะดวกซื้อ และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับราคาเป็นพิเศษ เนื่องจากขายในราคาต่ำกว่า 10 หยวน หรือประมาณ 1.40 ดอลลาร์เท่านั้น

ส่วน Luckin Coffee ซึ่งมีสาขากว่า 18,600 แห่ง ก็รายงานผลประกอบการอ่อนแอ รายได้ในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่กว่า 2,300 แห่ง แต่ยอดขายสาขาเดิมที่บริหารโดยตรงลดลง 20% โดยผู้บริหารระบุสาเหตุว่าเป็นเพราะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นและเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอ

Cotti Coffee ซึ่งก่อตั้งโดยสมาชิกเดิมของทีมผู้ก่อตั้ง Luckin Coffee เริ่มเปิดสาขาในปี 2022 และขยายสาขาอย่างรวดเร็วจนตามทัน Starbucks ในแง่จำนวนสาขา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลยุทธ์แฟรนไชส์ที่ลงทุนต้นทุนต่ำ

ทั้งนี้ สาขาของ Cotti Coffee ราว 70% เป็นร้านขนาดเล็กพื้นที่ไม่เกิน 40 ตารางเมตร และใช้เงินเริ่มลงทุนเพียง 240,000 หยวนเท่านั้น โดยบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) China Merchants Securities มองว่า ต้นทุนเริ่มต้นรวมค่าธรรมเนียมอื่นๆ ดูเหมือนจะต่ำกว่าคู่แข่ง รวมทั้งอัตราค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ก็ต่ำกว่าเช่นกัน

นอกจากนี้ แหล่งข่าวของนิกเคอิ เอเชีย เปิดเผยว่า สำนักงานใหญ่ของ Cotti Coffee ลงทุนเปิดโรงคั่วกาแฟขนาดใหญ่และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพื่อให้การดำเนินงานมีต้นทุนต่ำ ซึ่งทั้งหมดช่วยลดต้นทุนของบริษัทลงเหลือ 7-8 หยวนต่อแก้ว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Starbucks ยังคงได้รับความนิยมในจีน โดยผู้บริโภคดื่มทั้งเครื่องดื่มพรีเมียมและเครื่องดื่มทางเลือกราครประหยัด ส่วน Luckin Coffee ซึ่งเป็นร้านสไตล์ราคาประหยัดก็ต้องต่อสู้ในสงครามการลดราคากับ Cotti Coffee ต่อไป

อ้างอิง: Nikkei Asia