คาด‘จีนเที่ยวจีน’ปีนี้ใช้เงินในประเทศเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์

คาด‘จีนเที่ยวจีน’ปีนี้ใช้เงินในประเทศเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์

รายงานล่าสุดคาดนักท่องเที่ยวจีนท่องเที่ยวใกล้บ้านปีนี้ อัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจีนถึง 9.38 แสนล้านดอลลาร์ มากกว่าระดับก่อนโควิดเป็นครั้งแรก

เว็บไซต์บลูมเบิร์กรายงานข้อมูลจากสภาการเดินทางและท่องเที่ยวโลกทำรายงานร่วมกับออกซ์ฟอร์ดอีโคโนมิก พบว่า การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนคาดว่าจะสูงขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด

“นักท่องเที่ยวจีนกำลังเริ่มเดินทางอีกครั้ง คราวนี้มีแต่โตขึ้นๆ ภาคการท่องเที่ยวส่งสัญญาณยืดหยุ่นและฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง” จูเลีย ซิมป์สัน ประธานสภาการเดินทางกล่าว

ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจีนเป็นพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก หลายประเทศต่างรอคอยให้พวกเขากลับมาเยือนและใช้จ่าย โดยในปี 2562 นักเดินทางจากแดนมังกรไปเที่ยวต่างประเทศ 170 ล้านครั้ง ใช้จ่ายในต่างแดนเกือบ 2.48 แสนล้านดอลลาร์ คิดเป็น 14% ของการใช้จ่ายภาคการท่องเที่ยวทั้งโลก

อย่างไรก็ตาม กระบวนการวีซ่าที่คั่งค้างในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐ และตั๋วเครื่องบินแพงขึ้น ทำให้คนจีนนิยมท่องเที่ยวใกล้บ้านแทน ที่ๆ พวกเขาหลั่งไหลไปชิมอาหารท้องถิ่นจำพวกสตรีทฟู้ด หรือไปตามกระแส “เที่ยวเมืองรอง” หลีกหนีผู้คนแออัด

ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวจีนยังไม่ฟื้นตัว คาดว่าค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติในจีนแผ่นดินใหญ่ปีนี้จะอยู่ที่ 7.15 แสนล้านหยวน ต่ำกว่าระดับปี 2562 ราวหนึ่งในสี่ โดยจีนเป็นเขตเศรษฐกิจใหญ่รายท้ายๆ ที่เปิดประเทศหลังโควิด อีกทั้งเที่ยวบินขาเข้ายังไม่กลับมาเต็มที่

ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจีนยกเว้นวีซ่าให้กับนักเดินทางจากไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และยุโรปบางประเทศ รวมถึงผู้โดยสารเรือสำราญ เพื่อส่งเสริมทั้งการท่องเที่ยวขาเข้าและการลงทุน ช่วงต้นปีรัฐบาลปักกิ่งเผยว่า ตั้งแต่เดือน ก.ค.2566 ได้ผ่อนคลายวีซ่าให้กับ 11 ประเทศแล้ว

ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2566 จีนมีนักท่องเที่ยวมาเยือน 82 ล้านคน คิดเป็นราว 56% ของปี 2562 แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากที่อื่นไม่ใช่ฮ่องกงและมาเก๊ามีแค่ 13.8 ล้านคนเท่านั้น น้อยกว่าช่วงก่อนโควิดราว 57%

ด้านมอร์แกน สแตนลีย์ชี้ว่า แม้เศรษฐกิจจีนอ่อนแอการใช้จ่ายของผู้บริโภคซบเซา แต่การท่องเที่ยวกลับเป็นการบริโภคประเภทหนึ่งที่แข็งแกร่ง ภาคการเดินทางและท่องเที่ยวโดยรวมปีนี้จ้างงาน 80 ล้านคน ซึ่งยังต่ำกว่าระดับปี 2562 ราว 2%