เปิด 4 รูปแบบลงทุนทองคำสุดแปลกในต่างแดน ตอบโจทย์คนเงินน้อยแต่อยากรวย

ราคา“ทองคำ”พุ่ง สร้างแรงกระตุ้นให้กับนักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ในกลุ่ม Gen Z ที่หันมาสนใจการลงทุนในทองคำมากขึ้น ด้วยความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ประกอบกับราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดวิธีการซื้อทองคำที่แปลกใหม่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นตู้กดทอง สั่งทองออนไลน์ ซื้อทองในซุปเปอร์มาเก็ต หรือเม็ดถั่วทองคำ

รายงานจากบริษัท ชาร์ลส ชวาบ เผยว่า 65% ของคนรุ่น Gen Z และ Millennials ในสหราชอาณาจักรเปิดได้รับ การลงทุนในหุ้นย่อยหรือ "การลงทุนในปริมาณน้อย"มากขึ้น ซึ่งกระแสการลงทุนหุ้นย่อยนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสหราชอาณาจักรเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในทั่วโลกและในสินทรัพย์อีกหลากหลายประเภท ตั้งแต่หุ้นมีมสุดฮิต ไปจนถึงสกุลเงินดิจิทัล รวมไปถึงทองคำ

นักลงทุนรายย่อยกลัวตกขบวน

นักลงทุนรายย่อยกลัว "กลัวการพลาดโอกาส" (FOMO) แห่ซื้อทองคำท่ามกลางราคาที่พุ่งสูง โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาสินทรัพย์ต่างๆส่งผลให้มีการซื้อขายทองคำเพิ่มมากขึ้น ทำให้ทองคำแท่งกลายเป็นทางเลือกการลงทุนยอดนิยมอีกหนึ่งรูปแบบในเกาหลีใต้ 

ปาร์ค ซังฮยอน นักเศรษฐศาสตร์จาก HI Investment & Securities อธิบายว่า ปรากฏการณ์ FOMO สอดคล้องกับราคาทองคำ ในตลาดโลกที่พุ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่กว่า 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ตู้กดทองคำในกังนัม

ตอนนี้เดินไปในย่านกังนัมจะมีตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติขนาดใหญ่ที่ขายผลิตภัณฑ์ที่คาดไม่ถึง อย่าง “ตู้กดทองคำ”ของ จี เอส รีเทล บริษัทค้าปลีกติดตั้งตู้กดทองคำเพื่อขายทองคำแท่งไซส์จิ๋วตั้งแต่ขนาดน้อยกว่า 1 กรัม ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนัก 37.5 กรัม หรือ1.32 ออนซ์ ซึ่งมีราคาเริ่มต้นประมาณ 88,000 วอน (ประมาณ 2,326 บาท)  โดยราคาจะเปลี่ยนแปลงทุกวันตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำโลก

ขณะนี้เครื่องจำหน่ายทองคำเหล่านี้มีให้บริการในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศกว่า 30 สาขา ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าตั้งแต่เริ่มให้บริการในปี 2565 ปัจจุบันจีเอสรีเทล มียอดขายประมาณ 30 ล้านวอน หรือราว 8 แสนบาทต่อเดือน โดยตู้จำหน่ายทองคำดึงดูดความสนใจของลูกค้า เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ประกอบกับกระแสการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงเป็นที่นิยมมากขึ้น

บัตรทองคำในร้านสะดวกซื้อ

ความนิยมทองคำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเกาหลีใต้ ทำให้ BGF Retail บริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ประกาศวางขายบัตรทองคำ ultralight มีน้ำหนักให้เลือกสามประเภท ในร้านสะดวกซื้อในเครืออย่าง CU ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยบัตรทองคำน้ำหนัก 1 กรัม ขายหมดในเวลาเพียงสองวันเท่านั้น ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนวัย 30 ปี

ผ่านไป 1 เดือน บัตรทองคำทั้ง 770 ชิ้นที่วางจำหน่ายนั้น ถูกขายไปแล้วกว่า 95% "ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากแผ่นทองคำราคาคงที่ของ CU มีราคาถูกกว่าราคาตลาด" ทำให้ร้านสะดวกซื้อ CU วางแผนจะขยายไลน์สินค้าทองคำเพิ่มเติมในอนาคต โดยจะนำเสนอบัตรทองคำในน้ำหนักที่หลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่ 2 กรัม ไปจนถึง 10 กรัม

ซื้อทองออนไลน์ผ่านแอปธนาคาร

ตู้กดทองคำที่ได้รับความนิยมไปทั่วทั้งเกาหลีทำให้ ธนาคารออนไลน์พยายามตอบสนองความต้องการทองคำเช่นกัน นำโดยธนาคาร Kbank ซึ่งเป็น 1 ใน 3 เวอร์ชวลแบงก์ชั้นนำของเกาหลีใต้ที่มีผู้ใช้มากกว่า 10 ล้านคน ได้เปิดตัวบริการใหม่เมื่อวันที่ 9 พ.ค. โดยอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถซื้อทองคำแท่งขนาด 1.875 กรัม ถึง 37.5 กรัมบนแอปพลิเคชัน พร้อมบริการจัดส่งฟรี

"ด้วยราคาทองคำที่พุ่งสูงทะลุ 2,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การลงทุนทองคำกลายเป็นที่นิยม" เคแบงก์เกาหลีใต้ระบุพร้อมเสริมว่า มีแผนที่จะขยายบริการไปสู่เหรียญทองคำและเงินแท่งภายในสิ้นปีนี้

ซื้อทองคำในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ ‘สหรัฐ’

กระแสการขายทองคำในซุปเปอร์มาร์เก็ตยังพบได้ “สหรัฐ” และได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน โดยบริษัทคอสโก้ (Costco Wholesale Corp.) เชนร้านซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังในสหรัฐได้เริ่มวางจำหน่ายทองคำแท่งครั้งแรกในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ซึ่งทองคำขนาด 1 ออนซ์มักจะขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แม้จะมีข้อจำกัดในการซื้อ โดยลูกค้าแต่ละคนซื้อได้ไม่เกิน 2 แท่ง

ริชาร์ด กาลันติ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของคอสโก้ เปิดเผยว่า บริษัทมี ยอดขายทองคำแท่งมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 ถือเป็นซึ่งตัวเลขที่สูงมาก โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่าคอสโก้สามารถขายทองคำแท่งได้มากกว่า 100-200 ล้านดอลลาร์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนว่ามีคนสนใจซื้อทองคำอย่างมาก

เจน Z ออมทองคำเม็ดถั่วใน ‘จีน’

คนรุ่นใหม่ชาวจีนกำลังนิยมการออมทองในรูปแบบ "เม็ดทอง" Gen Z กลายเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักที่ขับเคลื่อนตลาด ในการซื้อทองคำรูปทรงน่ารักอย่าง "ทองคำเม็ดถั่ว"

ที่มีขนาดเล็กที่มักออกแบบเป็นรูปลักษณ์มงคล เช่น รูปแท่งทอง ปลาคาร์ฟ หรือรูปทรงต่างๆแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งสัตว์ทะเล ติ่มซำ หรือแม้แต่ทุเรียน

โดยมีน้ำหนักประมาณ 1 กรัม ราคาประมาณ 2-3 พันบาท ซึ่งเป็นราคาที่คนรุ่นใหม่เอื้อมถึง  โดยหลายคนเลือกที่จะซื้อทองคำเม็ดถั่วทีละ 1-2 ชิ้นต่อเดือน  เพราะมองว่าราคานั้นใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายในการซื้อชาไข่มุกเป็นประจำ

สำหรับคนรุ่นใหม่จำนวนมากนั้น ก้อนทองคำแวววับเม็ดจิ๋วเหล่านี้ไม่ได้มีความหมายแค่การเก็บออมเงินเฉย ๆ  แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว โดยปกติแล้วผู้บริโภคทองคำหลัก ๆ ในจีนจะเป็นกลุ่มคนวัยกลางและผู้สูงอายุ แต่ตอนนี้ Gen Z กำลังหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ทองคำขนาดเล็กเหล่านี้มากขึ้น

เจน Z กำลังยึดครองตลาดทอง!

สภาทองคำโลกระบุว่าในไตรมาสแรกของปี 2567 ความต้องการทองคำแท่งของผู้บริโภคในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 8.6 ตัน ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่า 2 ปี หลังราคาทองคำทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ได้กระตุ้นความสนใจของนักลงทุนในเกาหลีใต้

ด้าน Mob Data บริษัทที่ปรึกษารายงานข้อมูลจากในปี 2565 ยังชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มการซื้อทองคำของเจน Z เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 16% ในปี 2559  พุ่งไปแตะ 59% ในปี 2564 ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงสุดเมื่อเทียบกับกลุ่มวัยอื่น ๆ

รวมทั้งสมาคมทองคำแห่งประเทศจีน รายงานว่า กลุ่มผู้บริโภคทองคำหลักในขณะนี้ คือ คนจีนวัยระหว่าง 25-34 ปี  คิดเป็นสัดส่วนถึง 59% ในปี 2023  โดยสมาคมฯ คาดการณ์ว่า ในอนาคตผู้บริโภคที่อายุต่ำกว่า 25 ปี จะกลายเป็นกลุ่มลูกค้าซื้อทองคำรายใหญ่กลุ่มใหม่