อ่านเงื่อนไขปูติน'ยุติสงคราม' ยูเครนรับได้หรือไม่ l Leaders' Move
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันศุกร์ (14 มิ.ย.) ตัดหน้าการประชุมสันติภาพในสวิตเซอร์แลนด์ ยื่นเงื่อนไขยุติสงครามที่ยูเครนได้ยินแล้วต้องปฏิเสธทันที
ก่อนที่การประชุมสันติภาพยูเครนจะเริ่มขึ้นในวันเสาร์ (15 มิ.ย.) ที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งรัสเซียไม่ได้รับเชิญให้ไปร่วมประชุมด้วย ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ชิงประกาศเงื่อนไขยุติสงครามตัดหน้าตั้งแต่วันศุกร์ (14 มิ.ย.) ซึ่งขัดแย้งอย่างมากกับความต้องการของยูเครน สะท้อนว่ารัฐบาลมอสโกมั่นใจมากขึ้นทุกขณะว่ากองทัพของตนถือไพ่เหนือกว่าในสงครามนี้
สิ่งที่ปูตินต้องการคือยูเครนต้องวางอาวุธ เขายืนยันเช่นนี้ตั้งแต่ส่งทหารเข้ามาในวันที่ 24 ก.พ.2565 และชาติตะวันตกต้องเลิกคว่ำบาตรรัสเซีย
“เงื่อนไขง่ายมาก” ปูตินกล่าวและว่า กองทัพยูเครนจะต้องถอนทหารทั้งหมดออกจากภูมิภาคโดเนต์สก, ลูฮันส์ก, เคอร์ซอน และชาโปริชเชีย ทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครน
รัสเซียอ้างกรรมสิทธิเหนือพื้นที่ทั้งสี่ในปี 2565 ทั้งๆ ที่กองทัพรัสเซียครอบครองพื้นที่เหล่านี้ได้เพียงบางส่วน แน่นอนว่าประเทศส่วนใหญ่ในสหประชาชาติมองการกระทำของรัสเซียไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก่อนหน้านี้รัฐบาลมอสโกเคยผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเป็นของตนเองมาแล้วในปี 2557
“ทันทีที่พวกเขาประกาศในกรุงเคียฟว่า พร้อมที่จะตัดสินใจดังกล่าวแล้วเริ่มถอนทหารออกไปจากภูมิภาคเหล่านี้จริงๆ รวมถึงประกาศอย่างเป็นทางการยกเลิกแผนเข้าเป็นสมาชิก NATO ทางฝ่ายเราก็จะดำเนินการทันทีเช่นกัน สั่งหยุดยิงแล้วเริ่มการเจรจา”
“ผมขอย้ำอีกครั้ง เราจะดำเนินการทันที จริงๆ รับรองได้เลยว่าการถอนทหารยูเครนจะเป็นไปอย่างปลอดภัยไม่ถูกขัดขวาง” ประธานาธิบดีรัสเซียให้คำมั่น
เงื่อนไขของปูตินสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของเขาที่เพิ่มมากขึ้นต่อขีดความสามารถของมอสโก ถึงขนาดกล้ายื่นเงื่อนไขของตนเองออกมา ขณะที่กองทัพค่อยๆ รุกคืบทีละน้อยในระยะหลัง ในปีที่ 3 ของสงคราม รัสเซียควบคุมดินแดนยูเครนได้แล้วเกือบหนึ่งในห้า
ส่วนอนาคตการดำรงอยู่ของยูเครนจะเป็นอย่างไร ปูตินบอกว่า ขึ้นอยู่กับการถอนทหาร, ทำตัวเป็นกลาง และเริ่มคุยกับรัสเซีย พร้อมสำทับว่า สถานการณ์ทางทหารของรัฐบาลเคียฟจะเลวร้ายลงกว่านี้ถ้าปฏิเสธข้อเสนอของรัสเซีย
“วันนี้เรากำลังสร้างอีกหนึ่งรูปธรรม, ข้อเสนอสันติภาพอย่างแท้จริง ถ้าเคียฟและชาติตะวันตกยังปฏิเสธเหมือนที่เคยทำมาล่ะก็ ท้ายที่สุด มันก็เป็นเรื่องของพวกเขา เป็นความรับผิดชอบทางการเมืองและศีลธรรมของพวกเขา ที่จะปล่อยให้นองเลือดต่อไป”
- ยูเครนปฏิเสธทันควัน
มิคาอิโล โพดอลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน กล่าวกับรอยเตอร์สว่า เป็นเงื่อนไข “ไร้เหตุผล”
“เขากำลังเสนอให้ยูเครนยอมรับความพ่ายแพ้ เขากำลังเสนอให้ยูเครนลงนามสละอธิปไตยด้านภูมิรัฐศาสตร์”
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวกับสถานีโทรทัศน์SkyTG24 ของอิตาลีว่า ความเห็นของปูตินเท่ากับยื่นคำขาด ตั้งใจประกาศออกมาก่อนการประชุมผู้นำสันติภาพที่สวิตเซอร์แลนด์
“ชัดเจน เขา (ปูติน) รู้ว่าจะมีการประชุมผู้นำสันติภาพ เขาเข้าใจดีว่าโลกส่วนใหญ่อยู่ข้างยูเครน อยู่ข้างชีวิต และก่อนจะถึงการประชุม ท่ามกลางเสียงเตือนภัยโจมตีทางอากาศ การเข่นฆ่าประชาชนและโจมตีด้วยขีปนาวุธ เขาพูดราวกับว่ากำลังยื่นคำขาดบางอย่าง”
- สหรัฐโต้เดือด
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สำนักงานใหญ่ NATO ในกรุงบรัสเซลส์
“เขา (ปูติน) ไม่อยู่ในสถานะที่จะมาบงการยูเครนว่าต้องทำอะไรเพื่อให้ได้สันติภาพ”
ความเห็นปูตินเกิดขึ้นหลังจากสัปดาห์นี้สหรัฐเพิ่งคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ และทำข้อตกลงความมั่นคง 10 ปีกับยูเครน ที่ถูกมองว่าจะทำให้ยูเครนเป็นสมาชิก NATO ได้ในที่สุด อีกทั้งสหรัฐยังทำข้อตกลงกับประเทศ G7 ใช้ผลประโยชน์จากการอายัดทรัพย์สินของรัสเซียในโลกตะวันตกสนับสนุนการให้สินเชื่อ 50,000 ล้านดอลลาร์แก่รัฐบาลเคียฟ
- การประชุมสันติภาพสวิตเซอร์แลนด์
ถ้อยแถลงของปูตินนั้นชัดเจนว่าต้องการพูดออกมาก่อนการประชุมผู้นำที่สวิตเซอร์แลนด์ ที่เรียกกันว่า “การประชุมสันติภาพ” แม้รัสเซียไม่ได้เข้าร่วมก็ตาม ณ เวทีนี้เซเลนสกีพยายามแสดงให้เห็นว่า นานาชาติสนับสนุนเงื่อนไขยุติสงครามของยูเครน
ในมุมของยูเครนสันติภาพจะเกิดขึ้นได้เมื่อรัสเซียถอนทหารออกไปทั้งหมด แล้วฟื้นฟูเขตแดนปี 2534 หลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย
การประชุมผู้นำที่สวิตเซอร์แลนด์มีตัวแทนจากกว่า 90 ประเทศและองค์กรเข้าร่วม คาดว่าจะไม่พูดถึงประเด็นดินแดน แต่จะหันไปโฟกัสที่ความมั่นคงด้านอาหารและความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ในยูเครนแทน
ด้านทำเนียบเครมลินกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ “ไร้ประโยชน์” ถ้าไม่มีรัสเซียร่วมด้วย