เปิด 10 อันดับเมืองทั่วโลกที่ 'บ้านแพง' จนซื้อไม่ไหว
เผย 10 อันดับเมืองที่มีราคาบ้านแพงชนิดทำงานให้ตายก็ซื้อไม่ไหว พบ 'ฮ่องกง' นำลิ่วเป็นที่ 1 ขณะที่ 'ออสเตรเลีย' แพงติดท็อปเทนถึง 3 เมือง
เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นรายงาน 10 อันดับ "เมืองที่ราคาบ้านแพงจนซื้อไม่ไหว" โดยเป็นการเปรียบเทียบรายได้เฉลี่ยของครัวเรือนในเมืองกับราคาที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า ฮ่องกง ซิดนีย์ และแวนคูเวอร์ นำโด่งมาในอันดับ 1 ถึง 3 ขณะที่เมืองในสหรัฐติดโผไปถึง 5 แห่งด้วยกัน
ในรายงาน Demographic International Housing Affordability ได้เปรียบเทียบข้อมูลใน 8 เขตเศรษฐกิจซึ่งขึ้นชื่อเรื่องที่อยู่อาศัยราคาแพง ได้แก่ ฮ่องกง สหรัฐ สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไอร์แลนด์ และสิงคโปร์ พบว่า การระบาดของโควิดที่ผ่านมาผลักดันความต้องการบ้านที่มีพื้นที่ภายนอก ในขณะที่นโยบายการใช้ที่ดินซึ่งจำกัดการขยายตัวของเมือง บวกกับนักลงทุนที่เข้ามาในตลาดอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาบ้านพุ่งสูงขึ้น
รายงานซึ่งจัดทำโดยหน่วยงานคลังสมอง The Chapman University Frontier Centre for Public Policy ระบุว่า "ฮ่องกง" มาเป็นอันดับ 1 ในลิสต์บ้านแพงจนซื้อไม่ไหว แม้ว่าปัญหาการระบาดของโควิดในปี 2563 และการใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ จะฉุดให้ราคาที่อยู่อาศัยในฮ่องกงถูกลงมามากแล้วก็ตามเมื่อเทียบในอดีต
นอกจากราคาที่อยู่อาศัยแพงเป็นอันดับ 1 แล้ว ฮ่องกงยังมีอัตราการเป็น "เจ้าของบ้าน" น้อยที่สุดที่บรรดาเมืองทั้งหมดด้วยสัดส่วนเพียง 51% ซึ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับ "สิงคโปร์" ที่ 89% โดยสิงคโปร์นั้นแม้จะมีราคาบ้านแพง แต่รัฐบาลก็มีนโยบายที่ช่วยให้คนสิงคโปร์สามารถซื้อบ้านในราคาที่เข้าถึงได้ และเป็นนโยบายที่ใช้มาหลายสิบปีแล้ว ทำให้สิงคโปร์อยู่ในกลุ่มต้นตารางของเมืองที่สามารถหาซื้อบ้านได้
ขณะที่ "ออสเตรเลีย" นั้นติดอันดับเมืองบ้านแพงไปถึง 3 เมืองด้วยกัน หรือมากที่สุดเป็นรองแค่สหรัฐเท่านั้น นำโดย "ซิดนีย์" อันดับ 2 "เมลเบิร์น" อันดับ 7 และ "แอดิเลด" ในอันดับ 9
สำหรับ 10 อันดับเมืองที่บ้านแพงจนอยู่ไม่ไหว มีดังต่อไปนี้
- ฮ่องกง
- ซิดนีย์ ออสเตรเลีย
- แวนคูเวอร์ แคนาดา
- ซานโฮเซ สหรัฐ
- ลอสแอนเจลิส สหรัฐ
- โฮโนลูลู (ฮาวาย) สหรัฐ
- เมลเบิร์น ออสเตรเลีย
- ซานฟรานซิสโก สหรัฐ และแอดิเลด ออสเตรเลีย
- ซานดิเอโก สหรัฐ
- โตรอนโต แคนาดา