‘ฮุนได’ จ่อ IPO ใหญ่สุดในตลาดหุ้นอินเดีย เดิมพันตลาดรถยนต์อันดับ 3 ของโลก
“ฮุนได” เตรียมเสนอขาย IPO เข้าตลาดหุ้นมุมไบ ของอินเดีย ซึ่งอาจกลายเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ เพื่อช่วยยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ฮุนไดในอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (15 มิ.ย.) “ฮุนได มอเตอร์” (Hyundai Motor) บริษัทรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้ในสาขาอินเดีย ได้ยื่นขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อเสนอขายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์มุมไบ ซึ่งการเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) นี้ อาจกลายเป็น “การระดมทุน IPO ครั้งใหญ่ที่สุด” ในตลาดหุ้นอินเดีย
ในคำขอเสนอขายหุ้น IPO ระบุว่า บริษัทฮุนไดประเทศอินเดียจะขายหุ้น ไม่เกิน 17.5% ซึ่งจะทำให้ฮุนไดกลายเป็นค่ายรถแห่งแรกที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่ที่ มารูติ ซูซูกิ แบรนด์เจ้าตลาดในอินเดียที่เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างมารูติของอินเดีย และซูซูกิจากญี่ปุ่น ทำเช่นเดียวกันในปี 2546 อีกทั้งยังเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นอินเดียกำลังซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ฮุนไดมองว่า “อินเดีย” เป็นตลาดสำคัญสำหรับการเติบโตของบริษัท โดยมีโรงงานผลิต 2 แห่งในประเทศ และได้ลงทุนไปแล้วกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนอีก 4,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 10 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบัน อินเดียเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากจีนและสหรัฐ และยังเป็นตลาดที่สร้างรายได้เป็นอันดับ 3 ให้กับฮุนได
แม้ว่าเอกสารร่างของฮุนไดสำหรับการเสนอขายหุ้น IPO จะยังไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับราคาของ IPO หรือมูลค่าของบริษัท แต่แหล่งข่าวได้บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ฮุนไดตั้งเป้าที่จะระดมทุนประมาณ 2.5-3 พันล้านดอลลาร์ ที่มูลค่าสูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์
ฮุนไดระบุว่า การเข้าตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้จะช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์แบรนด์ของบริษัท และสร้างสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท
สำหรับเอกสาร IPO นี้ไม่ได้ระบุกรอบเวลาที่แน่นอนสำหรับการเข้าตลาด แต่โดยปกติแล้วคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ของอินเดีย จะใช้เวลา 3-6 เดือนในการอนุมัติ ปฏิเสธ หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นครั้งแรก
บริษัทฮุนได กล่าวว่า มีแผนที่จะมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ "Premiumization" ซึ่งหมายถึงการจำหน่ายรถยนต์รุ่นราคาแพงมากขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า และสร้างสถานีชาร์จไฟฟ้าเพิ่มเติม อีกทั้งฮุนไดยังต้องการส่งออกรถยนต์จำนวนมากขึ้น เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ให้บริษัทด้านการส่งออก
อ้างอิง: nikkei