‘จ่ายแพง - ขอวีซ่ายาก’ หนุนจีนหันมาเที่ยวใกล้บ้าน
การเดินทางเที่ยวต่างประเทศของนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวหลังโควิด-19 ระบาดกำลังเลือนหายไป เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงขึ้นและขอวีซ่ายาก ทำให้ต้องหันมาเที่ยวในประเทศหรือจุดหมายปลายทางใกล้บ้านแทน
KEY
POINTS
- การที่นักท่องเที่ยวจีนผู้ใช้จ่ายท่องเที่ยวต่างประเทศมากที่สุดในโลกยังไม่กลับไปสู่ระดับก่อนโควิด-19 ระบาด กำลังกระทบกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม และค้าปลีกทั่วโลก
- แรงกดดันจากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ยืดเยื้อ การว่างงานสูง แนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่ใหญ่เป็นอันดับสองส่อซบเซา ส่งผลให้ผู้บริโภคแดนมังกรต้องประหยัดมากขึ้น
- ในปี 2566 คนที่เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดประเทศหลังโควิด 40% ตัดสินใจไม่ไปต่างประเทศอีกในปีนี้
การเดินทางเที่ยวต่างประเทศของนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวหลังโควิด-19 ระบาดกำลังเลือนหายไป เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงขึ้นและขอวีซ่ายาก ทำให้ต้องหันมาเที่ยวในประเทศหรือจุดหมายปลายทางใกล้บ้านแทน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การที่นักท่องเที่ยวจีนผู้ใช้จ่ายท่องเที่ยวต่างประเทศมากที่สุดในโลกยังไม่กลับไปสู่ระดับก่อนโควิด-19 ระบาด กำลังกระทบกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม และค้าปลีกทั่วโลก
18 เดือนแล้วที่จีนยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์และเปิดประเทศอีกครั้ง แต่การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนยังไม่มากเท่าที่ตลาดคาดหวัง อีกทั้งรูปแบบการท่องเที่ยวกำลังเปลี่ยนแปลงไปหันมาเที่ยวในประเทศมากขึ้น
แรงกดดันจากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ยืดเยื้อ การว่างงานสูง แนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่ใหญ่เป็นอันดับสองส่อซบเซา ส่งผลให้ผู้บริโภคแดนมังกรต้องประหยัดมากขึ้นนับตั้งแต่โควิดระบาด จึงกระตุ้นให้เกิดสงครามราคาในทุกอย่างตั้งแต่การเดินทางไปจนถึงรถยนต์ กาแฟ และเสื้อผ้า
ในปี 2566 ชาวจีนเดินทางไปต่างประเทศ 87 ล้านครั้งลดลง 40% จากปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด นักสังเกตการณ์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกล่าวว่า อัตราการเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนชะลอลงนับตั้งแต่เทศกาลตรุษจีนในเดือน ก.พ. ข้อมูลจากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติชี้ว่า ปี 2566 นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายลดลง 24% จากปี 2562 ขณะเดียวกันนักเดินทางสหรัฐใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 14%
การที่นักท่องเที่ยวจีนไม่มาถือเป็นข่าวร้ายสำหรับหลายๆ ประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และสหรัฐ ที่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีนก่อนโควิด
หลิว ซี่หมิน รองประธานสาขาการท่องเที่ยว สถาบันวิจัยสังคมจีนเพื่ออนาคตศึกษาคาดการณ์ว่า การเดินทางไปต่างประเทศของจีนจะไม่ฟื้นสู่ระดับก่อนโควิดไปอีกห้าปี
“การฟื้นตัวต่ำกว่าที่คาดไว้อย่างมาก เงินหยวนอ่อนค่าผนวกกับเงินเฟ้อในสหรัฐและยุโรปยิ่งกระหน่ำซ้ำเติม” หลิวกล่าวกับรอยเตอร์
ตั้งแต่เริ่มปี 2567 เงินหยวนอ่อนค่าไปแล้วกว่า 2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ทำให้ชาวจีนเที่ยวต่างประเทศแพงขึ้น
บริษัทที่ปรึกษาโอลิเวอร์ วายแมนเคยประเมินไว้เมื่อเดือน พ.ค.ว่า การท่องเที่ยวต่างประเทศของจีนจะกลับมาปลายปี 2568 ช้ากว่าคาดการณ์เมื่อปีก่อนครึ่งปี
“เหตุผลคือผู้บริโภคคำนึงถึงค่าใช้จ่ายมากกว่าปีก่อน และคุณก็เห็นแล้วว่ามีผลต่อแนวโน้มการท่องเที่ยว” แอมเค วูเตอร์ส หุ้นส่วนโอลิเวอร์ วายแมน ในฮ่องกงให้ความเห็น
ที่แน่ๆ คือ การเดินทางไปต่างประเทศกำลังกลับมา ปี 2566 นักท่องเที่ยวชาวจีนกลับมาเป็นผู้ใช้จ่ายท่องเที่ยวต่างแดนสูงสุดของโลก หลังจากตามหลังสหรัฐในปี 2565
ฤดูร้อนนี้เที่ยวบินของสนามบินจีน 8% เป็นไฟลท์ต่างประเทศ เพิ่มจากแค่ 1% ในปี 2565
- เปลี่ยนมาเที่ยวในประเทศ
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวนั้นถูกบดบังด้วยการเดินทางในประเทศที่พุ่งขึ้นมาก ช่วงวันหยุดแรงงานห้าวันในเดือน พ.ค. ทะลุ 295 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากปี 2562
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรมการบิน Cirium เผยว่าที่นั่งของเที่ยวบินภายในประเทศเพิ่มขึ้น 16% ในเดือน พ.ค. เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ขณะที่ที่นั่งในเที่ยวบินระหว่างประเทศลดลง 40%
วูเตอร์สจากโอลิเวอร์ วายแมน กล่าวว่า ในปี 2566 คนที่เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดประเทศหลังโควิด 40% ตัดสินใจไม่ไปต่างประเทศอีกในปีนี้ ส่วนใหญ่เพราะความไม่สะดวก หลายประเทศยุโรปขอวีซายาก
หวัง จู ชาวปักกิ่ง วัย 38 ปี ยกเลิกทริปพักร้อนในฝรั่งเศสหันมาเที่ยวในประเทศ เพราะไม่ได้วีซ่าทั้งๆ ที่พยายามจองนัดล่วงหน้าหลายเดือน
“ผมพยายามจองสัมภาษณ์ไว้เมื่อปลาย มี.ค. เพื่อไปดูเทนนิสเฟรนช์โอเพนปลายเดือน พ.ค. แต่วันที่ผมจองได้เร็วสุดคือ 19 มิ.ย.” หวังกล่าวด้วยเหตุนี้เขาต้องไปพักร้อนที่ฉางซา เมืองเอกของมณฑลหูหนานที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารรสชาติเผ็ดร้อนแทน
“อาหารยอดเยี่ยมมาก ผมไปดูคอนเสิร์ตรายการหนึ่งด้วย ค่าใช้จ่ายแค่หนึ่งในสิบของที่ต้องใช้ในฝรั่งเศส” หวังย้ำ
สำหรับออสเตรเลีย มาร์กี ออสมอนด์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร Tourism & Transport Forum ของออสเตรเลีย เผยว่า ก่อนโควิดชาวจีนเป็นนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของออสเตรเลีย ตอนนี้ตกไปเป็นอันดับสี่ เดือน มี.ค.เดินทางเข้ามาลดลง 53% เมื่อเทียบกับ มี.ค.2562
ส่วนฝรั่งเศส ประเทศที่ชาวต่างชาติมาเยือนมากที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวจีนกลับไปเยือนแค่ 28.5% ของปี 2562 เท่านั้น
หันไปดูสหรัฐ ปริมาณที่นั่งโดยสารบนเส้นทางสหรัฐ-จีนยังคงลดลงกว่า 80% จากระดับปี 2562 ผลจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสองประเทศเข้มข้นขึ้น สำนักงานการเดินทางและท่องเที่ยวแห่งชาติสหรัฐคาดว่า การท่องเที่ยวจีนเข้าสหรัฐจะกลับมาเต็มที่อีกครั้งในปี 2569
สถานการณ์ที่กล่าวมาตรงข้ามกับประเทศที่มีนโยบายวีซ่าฟรีนักท่องเที่ยวจีนเติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) กาตาร์ และซาอุดีอาระเบีย ปริมาณที่นั่งเครื่องบินเพิ่มขึ้นด้วย
เจน ซัน ซีอีโอเว็บไซต์ Trip.com เผยว่า ขณะนี้สวิตเซอร์แลนด์ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวไฮเอนด์บนเว็บไซต์Trip.com กระบวนการขอวีซาใช้เวลาเจ็ดวัน
ขณะเดียวกันญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวเพิ่มจำนวนมากขึ้นเช่นกัน อานิสงส์เงินเยนอ่อนค่า
หากมองการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนในภาพรวม แกรี บาวเออร์แมน ผู้อำนวยการบริษัทข้อมูลการท่องเที่ยวCheck-In Asia กล่าวในการสัมมนาออนไลน์เดือนที่แล้วว่า ตลาดไม่ได้แค่กลับมาโตอีกครั้ง แต่ยังเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปด้วย