รัฐบาลสหรัฐ ‘ฟ้อง’ Adobe! ข้อหาทำให้ ‘การยกเลิกสมัครสมาชิก’ เป็นเรื่องยาก
‘Adobe’ ผู้สร้าง Photoshop และ Acrobat ถูกรัฐบาลสหรัฐฟ้องร้อง ในข้อหาปิดบังค่าธรรมเนียมยกเลิกสัญญา และทำให้การยกเลิกสมัครสมาชิกเป็นเรื่องยาก โดยผู้ยกเลิกสมาชิกทางโทรศัพท์มักถูกตัดสาย และถูกบังคับให้พูดซ้ำกับเจ้าหน้าที่หลายคน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) รัฐบาลสหรัฐได้ฟ้องร้องบริษัท “Adobe” โดยกล่าวหาว่าผู้ผลิตโปรแกรมกราฟิก Photoshop และ Acrobat รายนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับผู้บริโภคด้วยการ “ปิดบังค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญา” ในแผนการสมัครสมาชิก และ “ทำให้การยกเลิกสมัครสมาชิกเป็นเรื่องยาก”
ในคำร้องที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางแห่งเมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย คณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐ (FTC) กล่าวหาว่า Adobe ซ่อนค่าธรรมเนียม ซึ่งบางครั้งอาจสูงถึงหลายร้อยดอลลาร์ และซ่อนเงื่อนไขสำคัญอื่น ๆ ในแผนการสมัครสมาชิก "ชำระรายเดือนแบบรายปี" ไว้ในตัวหนังสือเล็ก ๆ หรือหลังกล่องข้อความ และลิงก์ต่าง ๆ
คำร้องดังกล่าวระบุว่า Adobe คำนวณค่าธรรมเนียมการยกเลิกก่อนกำหนดเป็น 50% ของยอดชำระที่เหลืออยู่ เมื่อผู้บริโภคยกเลิกการสมัครในปีแรก
FTC ยังกล่าวว่า Adobe บังคับให้ผู้ที่ต้องการยกเลิกสมัครสมาชิกออนไลน์ต้องคลิกอ่านหลายหน้าโดยไม่จำเป็น ขณะที่ผู้ยกเลิกสมาชิกทางโทรศัพท์ก็มักถูกตัดสาย ถูกบังคับให้พูดซ้ำกับเจ้าหน้าที่หลายคน ซ้ำยังประสบกับคำพูดเชิงแย้งและความล่าช้าจากเจ้าหน้าที่อีกด้วย
"Adobe จับลูกค้าให้เข้าสู่การสมัครสมาชิกระยะยาวหนึ่งปีด้วยค่าธรรมเนียมการยกเลิกก่อนกำหนดที่ซ่อนอยู่และอุปสรรคมากมายในการยกเลิก ชาวอเมริกันเบื่อหน่ายกับบริษัทที่ซ่อนเงื่อนไขในระหว่างการสมัครสมาชิก และสร้างอุปสรรคเมื่อลูกค้าพยายามยกเลิก" ซามูเอล เลวีน ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองผู้บริโภคของ FTC กล่าว
นอกจากนี้ FTC ยังกล่าวหา Adobe ว่าละเมิดกฎหมาย Restore Online Shoppers’ Confidence Act ซึ่งเป็นกฎหมายของรัฐบาลกลางที่บังคับใช้ในปี 2553 ที่ห้ามไม่ให้ผู้ค้าเรียกเก็บค่าธรรมเนียม รวมถึงการต่ออายุการสมัครสมาชิกอัตโนมัติ เว้นแต่จะมีการเปิดเผยเงื่อนไขที่สำคัญอย่างชัดเจนและได้รับความยินยอมจากลูกค้าก่อน
ทั้งนี้ การสมัครสมาชิกคิดเป็นมูลค่า 4,920 ล้านดอลลาร์ หรือ 95% ของรายได้ทั้งหมด 5,180 ล้านดอลลาร์ของ Adobe ในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 1 มีนาคม
อ้างอิง: reuters