ถอดรหัสสัมพันธ์แกร่ง ‘รัสเซีย-เกาหลีเหนือ’

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย เยือนเกาหลีเหนือครั้งแรกในรอบ 24 ปี ในวันที่ 19 มิ.ย. เพื่อกระชับสัมพันธ์กับคิม จองอึน เรื่องนี้จะส่งผลดีหรือร้ายต่อโลก

เว็บไซต์บลูมเบิร์กรายงานว่า ขณะที่สหรัฐและพันธมิตรพยายามโดดเดี่ยวรัสเซียและเกาหลีเหนือหนักข้อขึ้น ทั้งสองประเทศกลับเพิ่มการค้าสินค้าโภคภัณฑ์และอาวุธระหว่างกัน

กองทัพรัสเซียสามารถยิงปืนใหญ่ใส่ยูเครนได้วันละนับพันนับหมื่นลูกเพราะคิมจัดให้ และดูเหมือนว่าเกาหลีเหนือก็ได้รับความช่วยเหลือทางทหารเป็นการตอบแทน ยิ่งเพิ่มภัยคุกคามต่อสหรัฐและพันธมิตรในเอเชียตะวันออก

• ทำไมปูตินต้องมาพบคิมถึงเปียงยาง

ปูตินยังคงต้องการความช่วยเหลือจากเกาหลีเหนือ และต้องการขอบคุณผู้นำโสมแดงที่จัดหาอาวุธให้รัสเซียทำสงคราม นอกเหนือไปจากรถหรูที่เขามอบให้กับคนรักรถอย่างคิมเมื่อหลายเดือนก่อน

คิมเป็นฝ่ายเชิญปูตินมาเยือนเกาหลีเหนือในเดือน ก.ย.2566 ตอนที่ทั้งสองพบกันในตะวันออกไกลของรัสเซีย ภาพถ่ายดาวเทียมชี้ว่าการขนถ่ายอาวุธจากเกาหลีเหนือไปยังรัสเซียเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บัดนั้น

เกาหลีเหนือมีคลังแสงใหญ่สุดจำนวนหนึ่งเก็บกระสุนและอะไหล่ที่สามารถใช้ร่วมกับอาวุธรัสเซียที่แนวหน้าในยูเครนได้

ขณะเดียวกันการค้าขายระหว่างกันแทบไม่มีอุปสรรคขัดขวาง กระทำผ่านรถไฟข้ามพรมแดนแล้วส่งไปยังท่าเรือใกล้เคียงโดยเรือของทั้งสองประเทศไม่ต้องแล่นออกจากน่านน้ำของตน

• รัสเซียต้องการอะไร

รัสเซียอยากได้อาวุธจากเกาหลีเหนือเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นกระสุนปืนใหญ่ จรวดปืนใหญ่ ขีปนาวุธพิสัยใกล้ และอะไหล่สำหรับอาวุธยุคสหภาพโซเวียตบางชนิดที่ใช้ในยูเครน เช่น รถถังT-54 และT-62 เนื่องจากขณะนี้ยูเครนได้อาวุธชุดใหม่มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จากสหรัฐและพันธมิตรยุโรป

• เกาหลีเหนือต้องการอะไร

สิ่งที่รัฐบาลเปียงยางต้องการมีมากมาย ทั้งเงินสด สินค้าโภคภัณฑ์ และเทคโนโลยีมาใช้ในโครงการเรือดำน้ำและดาวเทียมสอดแนมและอื่นๆ ความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยย่อมส่งผลมหาศาล 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจเกาหลีเหนือปี 2565 มูลค่าราว 2.45 หมื่นล้านดอลลาร์รายได้ต่อหัวประชากรราว 3.4% ของเกาหลีใต้

ชิน วอนซิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เผยว่า ถึงขณะนี้รัสเซียจัดหาอาหาร วัตถุดิบ และชิ้นส่วนเพื่อผลิตอาวุธให้กับเกาหลีเหนือ

ถ้าการถ่ายโอนอาวุธเพิ่มมากขึ้น รัสเซียก็ต้องส่งเทคโนโลยีทางทหารเพิ่มขึ้น ยิ่งเพิ่มภัยคุกคามจากเปียงยางต่อภูมิภาค

มูลค่ากระสุนที่ส่งให้รัสเซียขณะนี้คิดเป็นเงินหลายพันล้านดอลลาร์ ส่วนความช่วยเหลือที่คิมได้รับสะท้อนถึงแรงหนุนใหญ่สุดที่มีให้กับดินแดนโสมแดงนับตั้งแต่เขาขึ้นสู่อำนาจในปี 2554 หลังจากบิดาถึงแก่อสัญกรรม

เจนนี ทาวน์ นักวิจัยอาวุโสจากสติมสันเซ็นเตอร์ กลุ่มคลังสมองด้านกิจการต่างประเทศ กล่าวว่า การเยือนของปูตินยัง “มีคุณค่าทางการเมืองต่อคิมด้วย เป็นการแสดงให้เห็นถึงสถานะที่แข็งแกร่งในเวทีโลก”

• ผลต่อสงครามในยูเครน

ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คิมเยี่ยมโรงงานผลิตกระสุน ตรวจตราการทดสอบอาวุธที่เกาหลีใต้กล่าวว่าอาจส่งไปให้รัสเซีย เช่น เครื่องปล่อยยิงจรวดหลายหัวรบขนาด 240 มม. ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เป็นขีปนาวุธนำวิถีพิสัยทำการระหว่าง 40-60 กม.

นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ราว 110 กม.ขณะที่กองทัพยูเครนได้ความช่วยเหลือรอบใหม่จากสหรัฐ ที่มีทั้งระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีของกองทัพบก (Army Tactical Missile System:ATACMS)

จูสต์ โอลีแมนส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ ร่วมเขียนหนังสือชื่อThe Armed Forces of North Korea กล่าวว่า อาวุธเกาหลีเหนืออาจชดเชยกับการที่ยูเครนใช้ ATACMS และระบบยิงจรวดนำวิถีหลายลำกล้อง(GMLRS) ได้ แม้ไม่แกร่งเท่าอาวุธสหรัฐก็ตาม

และแม้ยังมีคำถามถึงคุณภาพของอาวุธเกาหลีเหนือ แต่การมีกระสุนปืนใหญ่จำนวนมากก็เปิดทางให้กองทัพรัสเซียเล่นงานยูเครนได้อยู่หมัด ขณะเดียวกันขีปนาวุธโสมแดงก็ช่วยให้รัสเซียทำลายล้างเครื่องตรวจจับที่สหรัฐตั้งใจใช้ปกป้องเมืองใหญ่ของยูเครน

• ความหมายต่อสหรัฐ

ยิ่งเกาหลีเหนือส่งอาวุธให้รัสเซียมากขึ้น ยูเครนก็ยิ่งต้องการความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐและยุโรปมากขึ้น และยิ่งคิมได้รับความช่วยเหลือจากรัสเซียมากขึ้น ก็ยิ่งง่ายสำหรับเขาที่จะเพิกเฉยคำขอเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์จากสหรัฐ

เทคโนโลยีอาวุธใดๆ ที่เกาหลีเหนือได้รับจะเพิ่มขีดความสามารถในการโจมตีถึงแก่ชีวิตต่อญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่มีทหารอเมริกันประจำการอยู่จำนวนมาก เผลอๆ เกาหลีเหนืออาจประสบความสำเร็จยิงหัวรบนิวเคลียร์ไปถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐได้ด้วย

สถานีโทรทัศน์วายทีเอ็นของเกาหลีใต้รายงานว่าปูตินและคิมอาจลงนามข้อตกลงแทรกแซงทางทหารในกรณีเร่งด่วนซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อปฏิบัติการทางทหารจนอาจทำให้รัฐบาลวอชิงตันวางแผนรับมือฉุกเฉินซับซ้อนยิ่งขึ้น