ติดโทรศัพท์จนเสียสมาธิ! โรงเรียนสหรัฐสั่งเก็บมือถือ กังวลกระทบการเรียน
โรงเรียนในแอลเอสั่งนักเรียนกว่า 400,000 คน ห้ามใช้มือถือระหว่างเรียน อ้างรบกวนสมาธิ ทำลายสุขภาพจิต ครูมัธยมปลายกว่า 70% เผยเด็กติดโทรศัพท์จนเสียสมาธิปัญหาใหญ่ในห้องเรียน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เขตการศึกษาลอสแอนเจลีสได้อนุมัติการ “ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือตลอดทั้งวัน” โดยระบุว่าอุปกรณ์เหล่านี้รบกวนเด็กๆ จากการเรียนรู้ ทำลายสุขภาพจิต และปิดกั้นความสัมพันธ์
ในเขตการศึกษาลอสแอนเจลีส ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของสหรัฐมีนักเรียน 400,000 คน ซึ่งเป็น ระบุว่าจะศึกษาแนวทางในการดำเนินโครงการนี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม รวมถึงการบังคับให้นักเรียนเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋าที่ล็อคไว้หรือล็อคเกอร์พิเศษ
ตามนโยบายปัจจุบัน นักเรียนในลอสแอนเจลิสถูกห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างชั่วโมงเรียน แต่สามารถใช้ได้ในช่วงพักกลางวันหรือช่วงพักเบรก
มตินี้ได้รับอนุมัติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา(18 มิ.ย.67) โดยอ้างอิงถึงผลการวิจัยจำนวนมากที่เน้นย้ำถึงผลกระทบที่เป็น “อันตราย”จากการใช้โทรศัพท์มือถือของคนหนุ่มสาว
จากผลการสำรวจของ Common Sense Media ที่แสดงให้เห็นว่าวัยรุ่นกว่าครึ่งบอกว่ารู้สึก “ติด” โทรศัพท์ และกว่า 97% ของเด็ก ๆ อายุ 11 ถึง 17 ปีใช้โทรศัพท์ในช่วงวันเรียน
“เด็กๆ ไม่มีโอกาสที่จะได้เป็นเด็กอีกต่อไป”
ขณะนี้เจ้าหน้าบริหารโรงเรียนทั่วสหรัฐ กำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ในการจัดการกับการใช้สมาร์ทโฟนอย่างแพร่หลายของเด็กนักเรียน รวมทั้งจากการสำรวจของ Pew Research Center พบว่าครูมัธยมปลายประมาณ 70% บอกว่ามีนักเรียนเสียสมาธิจากโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในห้องเรียนของตน
แคธี่ โฮคูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า กำลังวางแผนที่จะเสนอนโยบายห้ามใช้สมาร์ทโฟนในโรงเรียนระหว่างการประชุมสภานิติบัญญัติประจำปี 2568 ด้วย
ทั้งนี้ กาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวในแถลงการณ์ว่า จะทำงานร่วมกับสภานิติบัญญัติเพื่อจำกัดการใช้สมาร์ทโฟนในช่วงเวลาเรียนในโรงเรียนของรัฐ “เมื่อเด็กและวัยรุ่นอยู่ในโรงเรียน พวกเขาควรมุ่งเน้นไปที่การเรียน ไม่ใช่หน้าจอ”