รัฐประหารล้มเหลว ปธน.โบลิเวียอ้าง 'ประชาธิปไตยชนะกบฏ' เตรียมแต่งตั้งผบ.คนใหม่

สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันพุธ (26 มิ.ย.) กองทัพโบลิเวียนำโดยฮวน โฮเซ ซูนิกา (Juan Jose Zuniga) ผู้บัญชาการทหารบก บุกเข้าทำเนียบประธานาธิบดีโบลิเวียในกรุงลาปาซ พร้อมมีกองทัพประจำการอยู่ที่จตุรัสด้านนอกที่มีสำนักงานรัฐบาลที่สำคัญตั้งอยู่ และมีรายงานว่ารถถังพุ่งชนประตูทำเนียบ

อย่างไรก็ตาม ภายในไม่กี่ชั่วโมงที่บุกเข้าทำเนียบ ซูนิกาก็ถูกตำรวจจับกุม และให้ทหารถอยทัพออกไป

ด้านประธานาธิบดีอาเซออกมาประณามความพยายามทำรัฐประหารของกองทัพ และเรียกร้องให้ประชาชนออกมาจัดการและรวมพลเพื่อประชาธิปไตย

“เราไม่สามารถยอมให้มีความพยามยามทำรัฐประหารเพื่อพรากชีวิตของประชาชนชาวโบลิเวียได้อีก” ปธน.อาเซ กล่าวผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์จากในทำเนียบรัฐบาล

ประธานาธิบดีกล่าวอีกว่า การถอนทัพของกองทัพกบฏถือเป็นชัยชนะของประชาธิปไตยโบลิเวีย และได้ออกมาปราศรัยกับพลเรือนที่ลงถนนเพื่อต่อต้านความพยายามทำรัฐประหารในภายหลังว่า

“ขอขอบคุณชาวโบลิเวียเป็นอย่างมาก...ประชาธิปไตยจงเจริญ”

ปธน.อาเซยังได้ประกาศเตรียมแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารคนใหม่ และยืนยันรายงานที่ว่า พลเอกซูนิกาถูกปลดออกจากตำแหน่งแล้ว

ทำไมโบลิเวียเกิดความพยายามทำรัฐประหาร?

ตั้งแต่ปธน.อาเซเข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2564 เขาได้กลายเป็นผู้นำรัฐบาลที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากกลุ่มทางการเมืองทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา

ภายใต้การบริหารของอาเซ กองทัพฝ่ายขวาในเมืองต่าง ๆ เช่น ซานตา ครูซ ออกมาต่อต้านมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลอย่างรุนแรง ซึ่งกองทัพเหล่านั้นเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวป้องกันไม่ให้พวกเขามีอำนาจ และเมื่อปีก่อน หลุยส์ เฟอร์นานโด กามาโช ผู้นำฝ่ายค้านคนสำคัญถูกจับกุมในข้อหามีบทบาทในการจับกุมทางการเมืองเมื่อปี 2562

ส่วนกลุ่มทางการเมืองฝ่ายซ้าย ปธน.อาเซต้องเชิญกับการตอบโต้จากเอโว โมราเรส อดีตประธานาธิบดีและอดีตที่ปรึกษาทางการเมืองของอาเซ ด้วยการประกาศความมุ่งมั่นที่จะมาแทนที่อาเซในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2568

นอกจากนี้ ความวุ่นวายทางการเมืองยังส่งผลให้เกิดการขาดแคลนเชื้อเพลิงทั่วประทเศ และเกิดวิกฤติทางการเงินที่ทำให้เงินทุนสำรองของโบลิเวียประสบปัญหา

จอห์น โฮลแมน ผู้สื่อข่าวจากอัลจาซีราอธิบายถึงสาเหตุที่นำไปสู่การทำรัฐประหารว่า ประธานาธิบดีโบลิเวียกำลังประสบปัญหาเล็กน้อย โดยอาเซได้รับคะแนนความนิยมต่ำ ซึ่งจากผลสำรวจล่าสุดในเดือน มี.ค. ปธน.อาเซมีคะแนนนิยมเพียง 38% และเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดีนัก

อีกทั้งหลุยส์ อาเซยังมีความขัดแย้งกับเอโว โมราเรส อดีตปธน.โบลิเวียอีกด้วย ปธน.จึงตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

ขณะที่พลเอกซูนิกา ผู้บัญชาการกองทัพโบลิเวียที่อาเซเลือกมากับมือ เผยว่า ตนบุกเข้าทำเนียบเมื่อวันพุธเพราะต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ

ซูนิกากล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า “ผู้บัญชาการทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ ได้ออกมาแสดงความเสียใจ และจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ประเทศของเราไม่สามารถเดินต่อไปแบบนี้ได้อีก ...หยุดทำลาย หยุดทำให้ประเทศของเรายากจน หยุดทำให้กองทัพของเราต้องอับอาย”

ผู้บัญชาการทหารโบลิเวียเสริมอีกว่า ตนจะยังคงเคารพอาเซในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดในขณะนี้ แต่เขาอธิบายไว้ว่าเป้าหมายของตนคือการฟื้นฟูประชาธิปไตย และปลดปล่อยนักโทษทางการเมือง แต่ในท้ายที่สุดแล้วเขาก็ถูกตำรวจจับกุม ไม่สามารถทำรัฐบประหารได้สำเร็จ

รายงานจากสื่อท้องถิ่นเผยด้วยว่า เมื่อช่วงต้นสัปดาห์อาเซได้ปลดซูนิกาออกจากตำแหน่งผู้นำกองทัพ จึงส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างผู้นำทั้งสองในเวลาต่อมา

 

อ้างอิง: BBC, Al Jazeera