18×2 Beyond Youthful Days เหตุผลของการเดินทาง l หนังเล่าโลก
การตัดสินใจออกจากบ้านไปชมภาพยนตร์ในโรงสักเรื่องมีเหตุผลหลายปัจจัย การอยากไปเที่ยวต่างประเทศเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อยากชมภาพยนตร์จากที่นั้นๆ รวมถึง 18×2 Beyond Youthful Days ภาพยนตร์ร่วมทุนสร้างระหว่างญี่ปุ่นกับไต้หวัน ที่เพิ่งไปดูมาสดๆ ร้อนๆ
18×2 Beyond Youthful Days ผลงานการกำกับของ Michihito Fujii ได้จางเจิ้น นักแสดงชื่อดังของไต้หวันเป็นโปรดิวเซอร์ บอกเล่าเรื่องราวของจิมมี เด็กหนุ่มวัย 18 ปี ชาวเมืองไถหนาน ผู้ใช้ชีวิตดำเนินไปตามสเต็ป ชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น Slum Dunk ตามประสาเด็กผู้ชาย และอยากเป็นนักบาสเก็ตบอลเหมือนในการ์ตูน จบ ม.6 แล้วก็สอบเข้ามหาวิทยาลัย ระหว่างรอผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไทเป จิมมีมาทำงานพาร์ทไทม์ที่โกเบคาราโอเกะตามคำชวนของเพื่อน งานการซ้ำซากน่าเบื่อ
แต่จู่ๆ อามิ แบ็กแพ็กเกอร์สาวชาวญี่ปุ่นผู้ออกเดินทางครั้งแรกและวางแผนเที่ยวรอบโลกเริ่มต้นจากไต้หวัน แต่อามิทำกระเป๋าเงินหาย จึงต้องมาหางานทำที่โกเบคาราโอเกะ มิตรภาพระหว่างอามิกับจิมมีได้ก่อตัวขึ้น เธอได้สอนให้จิมมีเจ้าของชีวิตเรียบเรื่อยได้รู้จักมีความฝัน หนึ่งเดือนที่อามิทำงานกับจิมมีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงเวลาที่เธอต้องกลับญี่ปุ่นและเดินทางต่อไปตามความฝัน จิมมีเองก็ต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เส้นทางชีวิตของทั้งสองแยกจากกันตั้งแต่นั้น ระหว่างเรียนจิมมีพัฒนาเกมประสบความสำเร็จจึงทิ้งการเรียนหันมาตั้งบริษัทเกมกับเพื่อนได้รับความนิยมมากมาย แต่จิมมีในวัย 36 ปี กลับถูกผู้ถือหุ้นปลดออกจากตำแหน่งซีอีโอในบริษัทที่ตนเองตั้งมากับมือ ความผิดหวังเคว้งคว้างทำให้จิมมีต้องทำอะไรสักอย่าง บังเอิญเขาเจอโปสการ์ดที่อามิส่งมาให้ตอนกลับไปญี่ปุ่นใหม่ๆ นั่นคือเมื่อ 18 ปีมาแล้ว จิมมีจึงตัดสินใจเดินทางไปญี่ปุ่น ณ บ้านเกิดของอามิ ที่ จ.ฟุกุชิมะ
นี่เป็นการเดินทางแบบไม่มีแผน คล้ายๆ ค่ำไหนนอนนั่น อยากแวะไหนก็แวะ บนรถไฟขบวนหนึ่งจิมมีได้รู้จักเด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ที่เพิ่งออกเดินทางเป็นครั้งแรก เด็กคนนี้ได้ให้มุมมองการเดินทางแบบคนเจนใหม่ที่ต่างกับคนรุ่นจิมมี
แม้ไม่มีแผนการแต่มีเป้าหมาย สุดท้ายจิมมีก็มาถึง จ.ฟุกุชิมะ ได้มาถึงบ้านของอามิ และเข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องเดินทางไกล ทุกการเดินทางมีเหตุผลเสมอไม่ว่าจะอามิ จิมมี หรือเด็กหนุ่มคนนั้น
สำหรับคนดูอย่างหนังเล่าโลกมองเห็นความสนิทแนบแน่นระหว่างญี่ปุ่นกับไต้หวัน (ทั้งสองเป็นพันธมิตรสหรัฐเหมือนกัน) มีตัวละครที่เป็นคนญี่ปุ่นเข้ามาใช้ชีวิตในไต้หวัน และคนไต้หวันเข้ามาใช้ชีวิตในญี่ปุ่น ต่างฝ่ายต่างสามารถผสมกลมกลืนกับสังคมได้เป็นอย่างดี
ทั้งยังได้เห็นความพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวในตัวหนัง (นี่คือสิ่งที่คนดูรู้สึก ผู้กำกับอาจไม่ตั้งใจก็ได้) พูดถึง จ.ฟุกุชิมะ คนทั่วไปคงยังจดจำถึงมหันตภัยสึนามิ เมื่อปี 2011 ที่ทำให้เตาปฏิกรณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลอมละลายสารกัมมันตรังสีรั่วไหล กลายเป็นข่าวใหญ่โตจนอาหารทะเลและผลไม้จากที่นี่ขายไม่ออกไปหลายปี น้อยคนถ้าไม่ใช่แฟนคลับญี่ปุ่นจริงๆ ยากจะรู้ว่า จ.ฟุกุชิมะมีวิวฤดูหนาวสวยงามตระการตา ฉากรถไฟที่จิมมีนั่งไปกับเพื่อนใหม่ลอดใต้อุโมงค์มืดมิด แล้วโผล่ออกมาเจอวิวหิมะขาวโพลนไปหมด สวยชนิดที่ไม่ต้องบันทึกภาพแต่ให้บันทึกไว้ในใจ
ส่วนที่ไถหนานภาพที่เห็นในภาพยนตร์ไม่สวยเท่าญี่ปุ่นแม้เป็นเมืองหลวงเก่าของไต้หวัน เท่าที่สังเกตไต้หวันคล้ายไทยมาก ยิ่งมีฉากจิมมีและอามิขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยว นึกขึ้นได้ว่านอกจากหนังจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วมีหนังไต้หวันนี่ล่ะ ที่เห็นฉากแบบนี้บ่อย แต่ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรือไต้หวัน ดู 18×2 Beyond Youthful Days จบแล้วอยากเก็บกระเป๋าไปเที่ยวซะเดี๋ยวนี้เลย เพราะทุกการเดินทางมีเหตุผลเสมอ อย่างน้อยๆ ก็ไปตามรอยหนัง