ECB ชี้คอนเสิร์ต Taylor Swift ไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้เงินเฟ้อยูโรโซนพุ่ง

ECB ชี้คอนเสิร์ต Taylor Swift ไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้เงินเฟ้อยูโรโซนพุ่ง

‘คริสติน ลาการ์ด’ ประธาน ECB เผยว่าคอนเสิร์ต ’เทย์เลอร์ สวิตฟ์’ ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ ‘เงินเฟ้อยูโรโซน’ พุ่งสูงขึ้น เพราะยังมีการจัดแสดงดนตรีจากศิลปินคนอื่นๆ

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานอ้างถึง “คริสติน ลาการ์ด” ประธานธนาคารกลางยุโรป  (ECB)  ตอบคำถามเกี่ยวกับผลกระทบของทัวร์คอนเสิร์ต Taylor Swift ต่อเงินเฟ้อในภาคบริการเมื่อวันอังคาร(2 ก.ค.67) เผยว่าทัวร์คอนเสิร์ต อีราสทัวร์ (Eras Tour) ของ “เทย์เลอร์ สวิตฟ์” ไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่ทำให้ “อัตราเงินเฟ้อ” ที่เพิ่มสูงขึ้นในภาคบริการของยูโรโซน 

หลังจาก “The Eras Tour” สร้างปรากฏการณ์ และทุบสถิติยอดจำหน่ายตั๋วทันที โดย บาร์เคลย์แบงก์ประเมินว่า ทัวร์คอนเสิร์ตทั้งสหราชอาณาจักรจะเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจอังกฤษได้ราว 1 พันล้านปอนด์

ปรากฏการณ์นี้ทำให้เกิดนิยามคำศัพท์ใหม่อย่าง  (เงินเฟ้อที่เกิดจากเทย์เลอร์ สวิฟต์) และ "Swiftonomics" (ระบบเศรษฐกิจที่ถูกขับเคลื่อนโดยเทย์เลอร์ สวิฟต์)  เมื่อปีที่แล้ว หลังจากการใช้จ่ายในภาคบริการ เช่น โรงแรม เที่ยวบิน และร้านอาหารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระหว่างการจัดแสดง

นักวิเคราะห์บางคนถึงกับแนะนำว่าผลกระทบต่อตัวเลขเงินเฟ้อที่สำคัญของสหราชอาณาจักรในช่วงที่เทย์เลอร์ สวิตฟ์ แสดงที่ลอนดอนอาจทำให้ธนาคารแห่งอังกฤษต้องเลื่อนการลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์ไว้ในเดือนกันยายน

แต่ลาการ์ด กล่าวว่า แม้อัตราเงินเฟ้อในภาคบริการของยูโรโซนยังคงทรงตัวในเดือนที่แล้ว ซึ่งตรงกับช่วงที่สวิฟต์จัดแสดงคอนเสิร์ตในยุโรป และสามารถขายตั๋วได้หมดเกลี้ยง ก็ไม่สามารถกล่าวได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นผลงานจากศิลปินเพียงคนเดียว นอกจากนี้การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นพร้อมกับการทัวร์คอนเสิร์ตใหญ่ๆ ของศิลปินอื่นๆ เช่น บรูซ สปริงสตีน, พิงค์ และสติง ก็ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกัน

"ไม่ใช่แค่เทย์เลอร์ สวิฟต์ ศิลปินคนอื่นๆ ก็มาแสดงด้วยเช่นกัน" ลาการ์ด กล่าว 

นอกจากนี้ยังกล่าวว่า "การบริการเป็นภาคส่วนที่ควบคุมยาก และขณะนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเงินเฟ้อด้านการบริการจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปหรือไม่" 

เงินเฟ้อภาคบริการอยู่ที่ระดับ 4.1%

ตามรายงานของสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรปเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เงินเฟ้อด้านการบริการในยูโรโซนยังคงอยู่ที่ระดับ 4.1% ในเดือนมิ.ย. ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาพลังงาน อาหาร แอลกอฮอล์ และบุหรี่ที่มีความผันผวนนั้น อยู่ที่ระดับ 2.9% ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.8%

อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อทั่วไป (headline inflation) ของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ 2.5% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 2.6% ในเดือนพ.ค. ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์

ทั้งนี้ ECB ลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนที่แล้วเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี โดยลดอัตราดอกเบี้ยหลักลงเหลือ 3.75% จากระดับสูงสุดที่ 4% นักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะลดอัตราดอกเบี้ยอีกสองครั้งในปีนี้ ในเดือนกันยายนและธันวาคม

อ้างอิง cnbc

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์