‘สหรัฐ’ สกัดเหล็กจีนที่เข้าทางเม็กซิโก ขณะ ‘ละตินอเมริกา’ ขึ้นกำแพงภาษีตาม

‘สหรัฐ’ สกัดเหล็กจีนที่เข้าทางเม็กซิโก ขณะ ‘ละตินอเมริกา’ ขึ้นกำแพงภาษีตาม

สหรัฐและเม็กซิโกจับมือเพิ่มมาตรการจำกัดเหล็กราคาถูกจากจีนที่ผ่านทางเม็กซิโก ขณะที่ประเทศในละตินอเมริกายกระดับกำแพงภาษีตาม

เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียรายงานว่า “สหรัฐ” ร่วมมือกับ “เม็กซิโก” ในการจำกัดการนำเข้าเหล็กราคาถูกจากจีนที่เข้ามาทางเม็กซิโก ขณะที่เหล่าประเทศใน “ละตินอเมริกา” ได้เพิ่มกำแพงภาษี เพื่อป้องกันไม่ให้เหล็กที่ล้นเกินจากจีนทะลักเข้ามาในพื้นที่

ในการร่วมมือกับเม็กซิโก รัฐบาลวอชิงตันประกาศเมื่อวันอังคาร (9 ก.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์เหล็กที่เข้าสู่สหรัฐ ผ่านทางชายแดนใต้ซึ่งไม่ได้มีแหล่งกำเนิดในอเมริกาเหนือจะถูกเก็บภาษีเพิ่มเติม

"เมื่อเราดำเนินการร่วมกัน เราเสริมสร้างความสามารถของเราในการปกป้องคนงานและธุรกิจอเมริกันจากภาวะการผลิตล้นเกินจากจีนที่ทะลักมา" แคเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐ กล่าวในแถลงการณ์

ภายใต้มาตรา 232 ของกฎหมายการขยายการค้า สหรัฐได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอลูมิเนียม 10% อย่างไรก็ตาม “เม็กซิโก” และ “แคนาดา” ถือเป็น 2 ประเทศที่ได้รับการยกเว้นจากการเรียกเก็บภาษีดังกล่าว จนกลายเป็นช่องโหว่ให้บริษัทจีนเข้าไปตั้งโรงงานในเม็กซิโก

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด รัฐบาลสหรัฐได้แจ้งว่าอัตราภาษีเหล่านี้จะใช้กับเหล็กจากเม็กซิโกด้วย จนกว่าผู้นำเข้าจะพิสูจน์ได้ว่าเหล็กนั้นถูกละลายและระบายในทวีปอเมริกาเหนือ ส่วนผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมที่มีวัสดุจากจีน รัสเซีย อิหร่าน หรือเบลารุสจะถูกเรียกเก็บตามอัตราภาษีเหล่านี้

ปีที่แล้ว สหรัฐนำเข้าเหล็กจากเม็กซิโกไปทั้งหมด 3.8 ล้านตัน ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ ซึ่ง 87% มาจากการผลิตในอเมริกาเหนือ ขณะที่ส่วนที่เหลือมาจากจีนหรือที่อื่น ๆ สำหรับผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม มีการนำเข้าจากเม็กซิโกซึ่งมีแหล่งกำเนิดที่ไม่ได้มาจากอเมริกาเหนืออยู่ประมาณ 6%

นอกจากนี้ ประเทศในละตินอเมริกาก็ขึ้นกำแพงภาษีตามด้วย เนื่องจากกังวลว่าความเข้มงวดของสหรัฐ อาจทำให้สินค้าจีนหลั่งไหลไปที่ละตินอเมริกาแทน โดยบราซิลเพิ่มอัตราภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กบางชนิดเมื่อเดือนที่แล้วเป็น 25% จากเดิมที่อยู่ระหว่าง 9% ถึง 12.6%

ที่ผ่านมา จีนส่งออกเหล็กไปบราซิลจำนวน 2.7 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้น 80% จากปี 2022 และส่งออกเพิ่มขึ้นอีก 44% ในไตรมาสแรกของปี 2024 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามรายงานของสมาคมเหล็กแห่งละตินอเมริกา อีกทั้งข้อมูลศุลกากรยังแสดงให้เห็นว่า การส่งออกของจีนไปยังเม็กซิโกและชิลีเติบโตราว 20% และ 10% ตามลำดับในปี 2023

การหลั่งไหลเข้ามาของเหล็กจีน ซึ่งเทียบเท่าประมาณ 10% ของการผลิตในบราซิล กำลังบีบให้ผู้ผลิตเหล็กในประเทศต้องลดการผลิตลง โดยการผลิตเหล็กดิบของบราซิลลดลง 6.5% เหลือ 31.87 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว เอกวาดอร์และปารากวัยมีการลดลงมากกว่า 10% ตามรายงานของสมาคมเหล็กโลก

ส่วนในชิลี เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ประกาศใช้มาตรการเก็บภาษีชั่วคราว 25% ถึง 33% สำหรับผลิตภัณฑ์เหล็ก นโยบายนี้ได้รับการตอบรับเชิงบวกจากบริษัทเหล็กในประเทศอย่าง CAP ส่งผลให้บริษัท ยกเลิกแผนที่จะระงับโรงงานแห่งหนึ่งในประเทศ

อ้างอิง: nikkei