‘ไทย’ ติดอันดับ 9 ‘มหาเศรษฐี’ เพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลก
รายงานความมั่งคั่งทั่วโลกประจำปี 2567 พบ ‘ไทย’ ติดอันดับ 9 ประเทศที่ ‘มหาเศรษฐี’ เพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า 'สหรัฐ' ครองแชมป์เศรษฐีมากสุดถึง 38% ส่วนคนรวย Top 1% ทั้ง 14 คน มีความมั่งคั่งรวม 7.2 หมื่นล้านล้านบาท
รายงานความมั่งคั่งทั่วโลกประจำปี 2567 (UBS Global Wealth 2024) จากธนาคารยูบีเอสชี้ให้เห็นว่าจำนวนมหาเศรษฐีทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีข้างหน้า เทรนด์นี้เกิดขึ้นในเกือบทุกภูมิภาคโดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจขนาดเล็กในแถบ "เอเชีย" ยกเว้นสหราชอาณาจักรที่จำนวนมหาเศรษฐีกลับลดลง
ความมั่งคั่งทั่วโลก มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆในทุกกลุ่มความมั่งคั่ง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูง (มีทรัพย์สินเกิน 50 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.8 พันล้านบาท) และจากปี 2567 สะท้อนว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่มีสัดส่วนของความมั่งคั่งทั่วโลกที่ทะลุ 30% ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเป็น 32% ภายในปี 2571
10 อันดับเขตเศรษฐกิจที่ 'มหาเศรษฐี’ จะเพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า
(การคาดการณ์จากปี 2566 ถึงปี 2571)
1. ไต้หวัน เพิ่มขึ้น 47% จาก 788,799 คน เป็น 1,158,239 คน
2. ตุรกี เพิ่มขึ้น 43% จาก 60,787คน เป็น 87,077 คน
3. คาซัคสถาน เพิ่มขึ้น 37% จาก 44,307 คน เป็น 60,874 คน
4. อินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 32% จาก 178,605 คน เป็น 235,136 คน
5.ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 28% จาก 2,827,956 คน เป็น 3,625,208 คน
6. เกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 27% จาก 1,295,674 คน เป็น 1,643,799 คน
7.อิสราเอล เพิ่มขึ้น26% จาก 179,905 คน เป็น 226,226 คน
8.ไต้หวัน เพิ่มขึ้น 24% จาก 331,538 คน เป็น 411,652 คน
9.ไทย เพิ่มขึ้น 24% จาก 100,001 คน เป็น 123,531 คน
10.สวีเดน เพิ่มขึ้น 22% จาก 575,426 เป็น 703,216 คน
เหล่ามหาเศรษฐีมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเนื่องจากมูลค่าของสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่เขตเศรษฐกิจใหม่จะมีบทบาทสำคัญในการเติบโตของความมั่งคั่งทั่วโลก แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันภายในกลุ่มประเทศเหล่านี้ สาเหตุหลักมาจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในระดับสูง
จำนวนเศรษฐีทั่วโลกอยู่ในสหรัฐอเมริกามากที่สุด โดยมีสัดส่วน 38% ส่วนยุโรปตะวันตกมีเศรษฐี 28% และจีนมีเศรษฐี 10% ซึ่งเท่ากับเศรษฐีในประเทศญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และไทยรวมกัน
นอกจากนี้ จำนวน “เศรษฐี” หรือผู้มีเงินสด 1 ล้านดอลลาร์ ขึ้นไป พบว่าอันดับ 1 เป็นของสหรัฐมีเศรษฐีมากที่สุดในโลกโดยมีจำนวนเกือบ 22 ล้านคน ส่วนอันดับ 2 เป็นของจีนจำนวน 6 ล้านคน และอันดับ 3 เป็นของสหราชอาณาจักร จำนวน 3 ล้านคน
รายงานยังเผย "พีระมิดความมั่งคั่งโลก 2567” หากรวมความมั่งคั่งของ 14 คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกจะมีมูลค่าเกือบ 2 พันล้านล้านดอลลาร์ (ราว 7.2 หมื่นล้านล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเพียงการคาดการณ์ว่าความมั่งคั่งทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้าเท่านั้น แต่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักรจะเป็น 2 ประเทศที่มีความมั่งคั่งลดลง 4% และ 17% ตามลำดับ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์