ทรัมป์พูดเอง! ไต้หวัน ‘ควรจ่าย’ ค่าคุ้มครองให้สหรัฐ
โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์สื่อไต้หวัน “ควรจ่าย” ค่าคุ้มครองให้สหรัฐ ก่อให้เกิดคำถามว่าความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับไทเปจะเป็นอย่างไรหากเขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ให้สัมภาษณ์บลูมเบิร์ก บิสสิเนสวีค เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (16 ก.ค.) ตอบข้อซักถามว่า เขาจะปกป้องไต้หวันจากจีนที่อ้างว่าเกาะแห่งนี้เป็นดินแดนของตนหรือไม่
“ผมรู้จักคนเหล่านั้นดี เคารพพวกเขามาก พวกเขาเอาธุรกิจชิปไปจากเราราว 100% ผมคิดว่าไต้หวันควรจ่ายค่าคุ้มครองให้เรา คุณรู้มั้ย เราไม่ต่างจากบริษัทประกันภัย ไต้หวันไม่ให้อะไรเราเลย” ทรัมป์ตอบ
ทั้งนี้ วอชิงตันไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน แต่ก็เป็นพันธมิตรสำคัญและเป็นผู้จัดหารอาวุธรายใหญ่ให้ไทเป และเมื่อเร็วๆ นี้ออกมาตรการช่วยเหลือทางทหารหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อรับมือกับปักกิ่ง
ขณะที่ไต้หวันเป็นมหาอำนาจด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ผลิตชิปทันสมัยส่วนใหญ่ป้อนเศรษฐกิจโลก
บริษัทไต้หวันเซมิคอนดักเตอร์แมนูแฟคเจอริง (TSMC) ผู้นำอุตสาหกรรมได้ประโยชน์มากจากกฎหมายชิปและวิทยาสตร์ ที่รัฐบาลวอชิงตันออกมาเมื่อปี 2565 เพื่อดึงดูดบริษัทต่างๆ ให้มาลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิปบนแผ่นดินสหรัฐ
สืบเนื่องจากกฎหมายดังกล่าว TSMC กำลังสร้างโรงงานสองโรงในสหรัฐ โดยประกาศแผนสร้างโรงที่ 3 เมื่อเดือน เม.ย. รวมเม็ดเงินลงทุนมากถึง 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์
ทรัมป์แสดงความเสียใจในการให้สัมภาษณ์ว่า วอชิงตัน “ให้พวกเขาเป็นพันๆ ล้าน เพื่อตั้งโรงงานใหม่ในประเทศของเรา แล้วพวกเขาก็จะเอาเงินนั้นไปด้วย”
“ผมไม่คิดว่าเราแตกต่างอะไรจากกรมธรรม์ประกันภัย ทำไมล่ะ ทำไมเราทำแบบนี้ เขาเอาอุตสาหกรรมชิปของเราไปเกือบ 100% ผมให้เครดิตพวกเขา” ทรัมป์กล่าว
ด้านนายกรัฐมนตรีโช จุงไทของไต้หวัน รับทราบความเห็นของทรัมป์ในวันพุธ (17 ก.ค.) กล่าวว่า ไทเปเพิ่มงบประมาณกลาโหมอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง
“เรายินดีรับผิดชอบมากขึ้น เรากำลังป้องกันตนเองและสร้างหลักประกันความมั่นคงของเรา เรายังย้ำชัดด้วยว่าความสัมพันธ์ไต้หวัน-สหรัฐแข็งแกร่งมากในช่วงไม่กี่ปีหลัง การธำรงสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคอินโดแปซิฟิกเป็นความรับผิดชอบและเป้าหมายร่วมกันของเรา”
ที่ผ่านมาจีนกล่าวว่า ไม่ยกเลิกการใช้กำลังเข้าควบคุมไต้หวัน ทั้งยังพูดบ่อยครั้งว่า “การรวมชาติ” เป็นสิ่งที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้”