มูลค่าหุ้น ‘ไหตี่เลา’ ดิ่งเหวกว่า 20% ตั้งแต่ เม.ย. ผู้คนหันมากินในบ้านแทน

มูลค่าหุ้น ‘ไหตี่เลา’ ดิ่งเหวกว่า 20% ตั้งแต่ เม.ย. ผู้คนหันมากินในบ้านแทน

'ไหตี่เลา' ราชาหม้อไฟชื่อดัง กำลังเผชิญมรสุมเศรษฐกิจ มูลค่าหุ้นร่วงเหวกว่า 20% นับตั้งแต่ เม.ย. สะท้อนให้เห็นถึงภาวะซบเซาของธุรกิจร้านอาหารในจีน ผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่าย และหันมากินที่บ้านแทน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เหล่า “บริษัทร้านอาหารนอกบ้าน” ในจีนกำลังประสบปัญหาผู้บริโภคลดการกินอาหารนอกบ้านลง ส่งผลให้บริษัทร้านหม้อไฟอย่าง “ไหตี่เลา” (Haidilao) ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่าง “ยัม ไชน่า” (Yum China) และร้านชาชื่อดังอย่าง “นายูกิ” (Nayuki) ล้วนสูญเสียมูลค่าหุ้นไปมากกว่า 20% นับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ซึ่งเป็นการติดลบมากกว่าดัชนีหุ้นภายในประเทศ 

นักวิเคราะห์มองว่า สาเหตุของผลประกอบการที่ต่ำกว่าระดับปกตินี้ เนื่องจากภาวะบริโภคที่อ่อนแอ และคาดการณ์ว่ารายได้และยอดขายจะลดลงต่อในปีนี้

ไอวาน สุ นักวิเคราะห์อาวุโสด้านหุ้นของ Morningstar กล่าวว่า “แรงกดดันทางเศรษฐกิจทำให้ผู้บริโภคต้องลดค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหาร โดยบางคนเลือกที่จะไปกินที่ร้านอาหารราคาถูกกว่า ขณะที่บางคนเลือกที่จะกินที่บ้าน”

ก่อนหน้านั้นที่อุตสาหกรรมอาหารของจีนไปได้ดี เป็นเพราะความต้องการที่อั้นไว้ช่วงโควิด-19 แต่ในตอนนี้ เศรษฐกิจระดับใหญ่ของจีนกำลังชะลอตัวลง เนื่องจากตลาดแรงงานที่ไม่แน่นอนและวิกฤติอสังหาริมทรัพย์จนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

ในช่วงไตรมาสสอง เศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นอัตราที่แย่ที่สุดในรอบ 5 ไตรมาส อีกทั้งร้านอาหารต่าง ๆ ก็เติบโตด้วยเลขตัวเดียว

ด้วยเหตุนี้ นักวิเคราะห์จึงปรับลดประมาณการณ์ผลกำไรและรายได้ประจำปี 2024 โดยข้อมูลที่รวบรวมโดยบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า กำไรสุทธิของร้าน Nayuki ในปีนี้ มีแนวโน้มลดลง 80% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ประมาณการณ์รายได้ของบริษัทมีแนวโน้มลดลงมากกว่าหนึ่งในสาม

แองเจล่า แฮนลี นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence กล่าวว่า “ภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตช้าส่งผลกระทบต่อจำนวนลูกค้าที่เข้าร้านอาหาร และทำให้ต้องมีโปรโมชั่นมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการร้านอาหารคาดการณ์ว่า ผลประกอบการเทียบเคียงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะอ่อนแอลง”

เพื่อดึงดูดลูกค้าที่กำลังประหยัดเงินกลับคืนมา แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มต่างกำลังเพิ่มโปรโมชั่นและส่วนลดมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเช่น ร้าน Yum China เสนอเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟราย และน้ำอัดลม ราคาเพียง 20 หยวน (ราว 99 บาท) ร้านหม้อไฟเสนอขายบุฟเฟต์ 19.9 หยวน (ราว 99 บาท) ในขณะที่แบรนด์ระดับพรีเมียมอย่าง Haidilao ก็พยายามแข่งขันด้วยการลดราคามากขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์ยังคงตั้งคำถามเกี่ยวกับความยั่งยืนของกลยุทธ์ลดราคา ซึ่งอาจส่งผลให้การทำกำไรยากลำบากมากยิ่งขึ้น 

นักวิเคราะห์และผู้ค้าหลักทรัพย์แนะนำทางออกว่า เชนร้านอาหารอาจสามารถรักษาระดับยอดขายและกำไรได้ด้วยการเปิดตัวสินค้าและบริการคุณภาพสูง ปรับลดขนาดพื้นที่ร้านค้าและจำนวนพนักงาน รวมถึงเลือกใช้วัตถุดิบที่ราคาถูกลง

อ้างอิง: Bloomberg