ทูตเผย อิสราเอลถูกฮูตีส่งโดรนโจมตีกว่า 200 ครั้งจนต้องตอบโต้
เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงกรณีอิสราเอลโจมตีท่าเรือโฮเดดาในเยเมน หลังถูกโดรนโจมตีส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บอีก 10 ราย ระบุ ตลอดเก้าเดือนที่ผ่านมาอิสราเอลถูกกลุ่มกบฏฮูตีด้วยโดรนและขีปนาวุธมากกว่า 200 ครั้ง แต่ต้องยับยั้งชั่งใจมาโดยตลอด
สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยเผยแพร่เอกสารข่าว ระบุ นับตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2566 อิสราเอลถูกกลุ่มกบฏฮูตีโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธมากกว่า 200 ครั้ง เป็นเวลาถึงเก้าเดือนที่อิสราเอลต้องยับยั้งชั่งใจ แต่ก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป ทั้งนี้อิสราเอลไม่ได้ต้องการให้เกิดสงครามในภูมิภาคแต่จำต้องปกป้องพลเมืองของตน
ท่าเรือโฮเดดาซึ่งกลุ่มฮูตีใช้เพื่อการก่อการร้าย เป็นช่องทางในการขนส่งอาวุธของอิหร่าน รวมถึงอากาศยานไร้คนขับที่ใช้โจมตีนครเทล อาวีฟ บรรดาอุปกรณ์ทางการทหารของอิหร่านล้วนอยู่ภายใต้ความควบคุมและนำมาใช้โดยกลุ่มกบฏฮูตี ดังนั้นท่าเรือโฮเดดาจึงกลายเป็นเป้าหมายทางทหารที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นเรื่องหน้าไหว้หลังหลอก ที่กลุ่มกบฏฮูตีจะเรียกร้องขอความคุ้มครองต่อท่าเรือ ซึ่งในขณะที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ก็ใช้เพื่อการปฏิบัติการทางทหารด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ความช่วยเหลือส่วนใหญ่ที่ส่งผ่านท่าเรือโฮเดดากลับจบลงที่กลุ่มกบฏฮูตี แทนที่จะเป็นชาวเยเมนผู้ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง ทั้งนี้ยังมีช่องทางอื่นๆ อีกอย่างเช่น ท่าเรือเอเดน ซึ่งพร้อมสำหรับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอลเรียกร้องให้ประชาคมโลกใช้ทุกช่องทางเพื่อประณามการปฏิบัติการของกลุ่มกบฏฮูตีที่เป็นบ่อนทำลายความมั่นคง พร้อมกับยืนยันสิทธิของอิสราเอลในการปกป้องดินแดนและพลเมืองของตน
"เราคาดหวังว่านานาประเทศจะเพิ่มการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ประกาศให้กลุ่มกบฏฮูตีเป็นองค์กรก่อการร้าย กำหนดมาตรการคว่ำบาตรที่รวมถึงผู้นำฮูตี และสนับสนุนอิสราเอลอย่างเปิดเผยต่อปฏิบัติการตอบโต้กลุ่มกบฏฮูตี ทั้งนี้ อิสราเอลยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสันติภาพและเสถียรภาพ แต่ก็จะดำเนินการทุกวิถีทางที่จำเป็น เพื่อปกป้องประชาชนและอธิปไตยจากภัยคุกคามด้านการก่อการร้าย ดังนั้น การสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศจึงสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความพยายามดังกล่าวนี้”