'บลิงเคน' ทัวร์ 6 ประเทศ โชว์สหรัฐไม่ทิ้งเอเชีย

'บลิงเคน' ทัวร์ 6 ประเทศ โชว์สหรัฐไม่ทิ้งเอเชีย

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เปิดฉากทัวร์หกประเทศเอเชีย 10 วัน หวังแสดงให้เห็นว่า สหรัฐรับผิดชอบภูมิภาคนี้อย่างแข็งแกร่ง

สำนักข่าวนิกเคอิเอเชียรายงาน แดเนียล คริเทนบริงก์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ กิจการเอเชียตะวันออก และแปซิฟิก กล่าวในเวทีสัมมนาที่สถาบันวิสาหกิจอเมริกัน (เออีไอ) เมื่อวันพุธ (24 ก.ค.67) ตามเวลาท้องถิ่นว่า การเยือนลาว เวียดนาม ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และมองโกเลีย ถือเป็นทริปยาวนานที่สุดทริปหนึ่งของบลิงเคน ซึ่งตั้งใจส่งสัญญาณว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส “ผูกพันมั่นหมาย” ต่อเอเชีย

"เรากำลังสร้างโครงข่ายความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันทั้งทางการ และไม่เป็นทางการเพื่อเสริมสร้างผลประโยชน์ร่วมกันของเราในภูมิภาค เมื่อท่านรัฐมนตรีไปเขาจะแสดงให้เห็นว่า เรารับผิดชอบต่ออาเซียนในฐานะสถาบัน และเรารับผิดชอบต่อพันธมิตรทั่วทั้งภูมิภาค” คริเทนบริงก์ กล่าว

ที่ผ่านมารัฐบาลไบเดนสาละวนอยู่กับสงคราม และความขัดแย้งในอัฟกานิสถาน ยูเครน และอิสราเอล ทั้งๆ ที่ยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกเมื่อปี 2565 ประกาศไว้ว่าสหรัฐจะ “ให้ความสำคัญกับทุกซอกมุมของภูมิภาคนี้”

นักสังเกตการณ์มองว่า ทริปเอเชีย 10 วันของไบเดนจะเบี่ยงเบนความสนใจมายังจีน ผู้ท้าทายทางยุทธศาสตร์ใหญ่สุดของสหรัฐ

มีรา แรปป์ ฮูเปอร์ ผู้อำนวยการอาวุโสสภาความมั่นคงแห่งชาติฝ่ายเอเชียตะวันออก และโอเชียเนีย กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันหวังว่ากลุ่มพหุภาคีขนาดเล็กในภูมิภาค เช่น กลุ่มสี่ฝ่าย (Quad) อันประกอบด้วยสหรัฐ ญี่ปุ่น อินเดีย และออสเตรเลีย, กลุ่มสหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และกลุ่มสหรัฐ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์จะมีปฏิสัมพันธ์กันเพื่อปกป้องระเบียบโลกที่มีกฎระเบียบเป็นพื้นฐาน

“เป็นความจำเป็นที่ต้องสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ในภูมิภาคเพื่อช่วยเสริมกำลังอินโดแปซิฟิกต้านความท้าทายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นจากพีอาร์ซี,ดีพีอาร์เค,การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือภัยคุกคาม และความท้าทายใดๆ ก็ตาม”

ฮูเปอร์ กล่าวโดยใช้อักษรย่อของสาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี

แต่ก่อนการเดินทางจะเกิดขึ้นเหล่าพันธมิตรถูกย้ำเตือนถึงหมวกหลายใบที่บลิงเคนสวมใส่ กล่าวคือ ตามแผนเดิมเขาต้องบินไปเวียดนามเพื่อร่วมงานรัฐพิธีศพของเหวียน ฝู จ่อง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ แต่เนื่องจากบลิงเคนต้องร่วมประชุมกับไบเดน และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (25 ก.ค.67) เขาจึงพลาดงานดังกล่าวเปลี่ยนไปเยี่ยมครอบครัวจ่องแทนหนึ่งวันหลังจากนั้น

เวียดนามนั้นถูก เคิร์ท แคมป์เบลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศเรียกขานว่า “สวิงสเตต” แห่งอินโดแปซิฟิก เปรียบได้กับรัฐที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นไปอย่างดุเดือดเพราะไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคใดพรรคหนึ่งถ้าสวิงสเตตเลือกใครในเดือนพ.ย.นี้ คนนั้นก็ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ เช่นเดียวกับการสนับสนุนของเวียดนามที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันอิทธิพลเหนืออินโดแปซิฟิก ระหว่างสหรัฐกับจีน

สำหรับงานศพของเหวียน ฝูจ่อง จีนส่งหวัง หูหนิง คณะกรรมการถาวรโปลิตบูโร ลำดับที่ 4 มาร่วม

ที่ลาว บลิงเคนจะหารือกับหวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน นอกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเอเชียตะวันออก และการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมือง และความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เออาร์เอฟ)

วันอาทิตย์ (28 ก.ค.67) บลิงเคนจะไปสมทบกับลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐในกรุงโตเกียว เพื่อสนทนา “สองบวกสอง” ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศ และกลาโหม ทั้งสองประเทศจะติดตามการประชุมระหว่างไบเดนกับนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะที่กรุงวอชิงตันเมื่อเดือนเม.ย. และนำมาตรการที่ผู้นำทั้งสองเห็นชอบเพื่อเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่นให้แข็งแกร่งมาสู่การปฏิบัติ

เจมส์ ชอฟฟ์ ผู้อำนวยการอาวุโสมูลนิธิสันติภาพซาซาคาวา ยูเอสเอ กล่าวว่า การปฏิบัติดังกล่าวเริ่มต้นจากปรับปรุงโครงสร้างการบัญชาการ และควบคุมกองกำลังสหรัฐในญี่ปุ่น ทั้งสองฝ่ายยังไม่ตัดสินใจเรื่องชั้นยศผู้บังคับบัญชา ที่ตั้งกองบัญชาการปฏิบัติการ และขนาดของเจ้าหน้าที่

“แต่เราไม่ควรปล่อยให้การหารือสองบวกสองเป็นไปอย่างไร้ข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่า เราเห็นตรงกันในแง่ของขนาดและขอบข่ายของโครงการริเริ่มนี้” ชอฟฟ์ กล่าว 

เอลี แรตเนอร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ฝ่ายความมั่นคงอินโดแปซิฟิก กล่าวในเวทีเออีไอว่า ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันเรื่องท่าทีของกองกำลังในญี่ปุ่น “โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เกาะตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อพิจารณาว่าเราสามารถขยายความร่วมมือที่นั่นได้อย่างไร”

หมู่เกาะตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นทอดยาวจากภูมิภาคคิวชูไปยังไต้หวัน โดยเกาะโยนากูนิทางตะวันตกสุดตั้งอยู่ห่างจากไต้หวันเพียง 110 กิโลเมตร การทำกิจกรรมใดๆ ในบริเวณนี้แน่นอนว่าต้องดึงดูดความสนใจของจีน

ในวันจันทร์ (29 ก.ค.67) บลิงเคนจะร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม Quad ในกรุงโตเกียว ซึ่งประชุมกันเป็นครั้งที่ 8 ปูทางไปสู่การประชุมผู้นำที่อินเดียในปีนี้ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า สุขภาพของไบเดนจะเอื้ออำนวยให้เดินทางไปต่างประเทศได้หรือไม่

คามิลล์ ดอว์สัน รองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กล่าวโดยสรุป ณ ศูนย์สื่อต่างประเทศว่า การประชุมของกลุ่มสี่ฝ่ายจะหาทางส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

“วิธีการหนึ่งที่สำคัญที่สุดเราคิดว่ากลุ่ม Quad สามารถสนับสนุนภูมิภาคนี้ได้คือ ในด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจที่สามารถทำให้พวกเขาก้าวไปสู่ทิศทางแห่งความมั่งคั่งได้อย่างสัมฤทธิผลที่สุด”

จากนั้นทั้งบลิงเคน และออสติน จะเดินทางต่อไปยังกรุงมะนิลาเพื่อประชุมสองบวกสองกับคู่เจรจาฟิลิปปินส์ โดยจะหารือกันถึงมาตรการธำรงความมั่นคงในทะเลจีนใต้

สรุปว่าครั้งนี้เป็นการเยือนอินโดแปซิฟิก ครั้งที่ 18 ของบลิงเคนแต่ยาวนานที่สุด ทว่าอาจมีคำถามว่าทำไมถึงไม่มาไทย เรื่องนี้คริสโตเฟอร์ เฮลม์แคมป์ โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เผยว่า แม้ไม่ได้มาเยือนแต่ระหว่างการประชุมที่ลาวบลิงเคนมีโอกาสมากมายในการปฏิสัมพันธ์กับรัฐมนตรีต่างประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอยู่แล้ว

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์