สัมพันธ์ปึ้ก! เลขาพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเยือนจีนประเทศแรก

สัมพันธ์ปึ้ก! เลขาพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเยือนจีนประเทศแรก

โต เลิม ผู้นำเวียดนามเตรียมเยือนจีนในสัปดาห์หน้าเป็นประเทศแรกนับตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อไม่กี่วันก่อน

แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เวียดนามสองรายและนักการทูตในกรุงฮานอยหนึ่งรายเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า นายเลิม ซึ่งเป็นประธานาธิบดีเวียดนามด้วย มีแผนเดินทางไปถึงจีนในวันที่ 18 ส.ค. พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ในห้วงการเยือนสองวัน แผนการนี้ยังไม่ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ

 ความเคลื่อนไหวนี้ตอกย้ำความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างเพื่อนบ้านที่ปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์ และพัฒนาสายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าไปด้วยดี แม้มีปัญหาเรื่องเขตแดนในทะเลจีนใต้กันบ้างเป็นครั้งคราว

รอยเตอร์สอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศจีนและเวียดนามยังไม่ได้รับคำตอบ

ก่อนหน้านี้ นายเลิม วัย 67 ปี ไปเยือนลาวและกัมพูชามาแล้วตามธรรมเนียมในฐานะประธานาธิบดี ทั้งยังได้พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียตอนมาเยือนฮานอยในเดือน มิ.ย. และได้โทรศัพท์คุยกันเมื่อสัปดาห์ก่อนหลังนายเลิมได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรค

การเยือนจีนจึงเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่เขาได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อวันที่ 3 ส.ค. สองสัปดาห์หลังการอสัญกรรมของนายเหวียน ฝูจ่อง ผู้รับตำแหน่งนี้มายาวนาน

เวียดนามไม่มีผู้นำสูงสุด แต่จ่องผู้ล่วงลับได้กระชับอำนาจไว้ในมือเลขาธิการพรรค ซึ่งหลังจากเลิมได้รับการแต่งตั้งทั้งประธานาธิบดีสี และประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ต่างชื่นชม

ด้านนักลงทุนมองว่าการที่นายเลิมขึ้นสู่ตำแหน่งนี้ช่วยลดความผันผวนทางการเมืองที่ชะลอโครงการและการปฏิรูปเวียดนามให้ล่าช้าออกไป

เจ้าหน้าที่เวียดนามรวมถึงเจ้าหน้าที่ต่างชาติหลายรายกล่าวว่า นายเลิม ผู้เป็นนายพลและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ อาจสละตำแหน่งประธานาธิบดีภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า เป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นตอนประชุมรัฐสภาในเดือน ต.ค. ซึ่งเกิดขึ้นหลังการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในเดือน ก.ย. ที่นายเลิมต้องเข้าประชุมในฐานะประธานาธิบดีเวียดนาม แหล่งข่าวสองรายเผยว่าเขาจะได้พบกับประธานาธิบดีไบเดนด้วย

ทั้งนี้ ตำแหน่งระดับสูงของเวียดนามทั้งหมดจะถูกปรับเปลี่ยนในปี 2026 ตอนที่สภาครบวาระห้าปี นักวิเคราะห์และนักการทูตหลายคนมองว่า ขณะนี้นายเลิมอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดที่จะรักษาความเป็นผู้นำพรรคเอาไว้