'บ้านหลังแรก-แจกเงินเด็กเกิดใหม่' ส่อง 'นโยบายประชานิยม' คามาลา แฮร์ริส

'บ้านหลังแรก-แจกเงินเด็กเกิดใหม่' ส่อง 'นโยบายประชานิยม' คามาลา แฮร์ริส

ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเดินมาถึงจุดที่ใช้ 'นโยบายประชานิยม' สู้กันแล้ว คามาลา แฮร์ริสเสนอแผน 'บ้านหลังแรก' 8 แสนบาท พร้อมแจกเครดิตภาษี 2 แสนให้ครอบครัวเด็กเกิดใหม่ ไปดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ได้เปิดเผย "วาระเศรษฐกิจประชานิยม" อย่างเข้มข้นในการหาเสียงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่ละเอียดที่สุดเท่าที่เจ้าตัวเคยพูดมาเกี่ยวกับลำดับความสำคัญในการบริหารประเทศ นับตั้งแต่แฮร์ริสได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต

ก่อนที่แฮร์ริสจะกล่าวสุนทรพจน์ที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา ทีมหาเสียงของเธอได้ประกาศสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจมากกว่า 12 ข้อที่มุ่ง "ลดค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวชาวอเมริกัน" รวมไปถึงนโยบายบางอย่างที่ก้าวข้ามเกินกว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยให้คำมั่นเอาไว้

"หลังผ่านมาหลายสัปดาห์ ในที่สุดแฮร์ริสก็ได้กำหนดชุดนโยบายออกมาซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่า พรรคเดโมแครตมุ่งมั่นที่จะผลักดันวาระสนับสนุนครอบครัวชนชั้นกลาง และยุคสมัยที่ธุรกิจเอกชนเป็นหัวหอกนำประเทศนั้นได้จบลงแล้ว" เฟลิเซีย หว่อง ประธานหน่วยงานคลังสมองฝ่ายแนวคิดเอียงซ้าย Roosevelt Forward กล่าว

ในบรรดานโยบายประชานิยมดังกล่าว มีหัวข้อที่น่าสนใจหลายเรื่อง อาทิ

  • ยกหนี้ค่ารักษาพยาบาลให้ชาวอเมริกันนับล้านคน
  • ห้ามโก่งราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและของใช้ที่จำเป็น 
  • ตั้งเพดานคุมราคายาที่สั่งจ่ายโดยแพทย์
  • อุดหนุนช่วยซื้อบ้านหลังแรก 25,000 ดอลลาร์ (ราว 8.6 แสนบาท)
  • ลดหย่อนภาษี 6,000 ดอลลาร์ (ราว 2.07 แสนบาท) กับครอบครัวที่มีเด็กแรกเกิดในปีแรก

ยกหนี้ค่ารักษาพยาบาล-ไม่รายงานเครดิตบูโร

ก่อนหน้านี้ในเดือน มิ.ย. แฮร์ริสเคยประกาศเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าจะผลักดันไม่ให้มีการรายงานหนี้สินที่เกิดการรักษาพยาบาลลงในรายงานเครดิตบูโรส่วนบุคคล ซึ่งจะช่วยรักษาความน่าเชื่อถือการเงินส่วนบุคคลให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนในการขอกู้ซื้อรถ กู้ซื้อบ้าน และกู้เงินไปหมุนทำธุรกิจขนาดเล็กได้ง่ายขึ้น  

"ไม่ควรมีใครถูกปฏิเสธการเข้าถึงโอกาสทางการเงินเพียงเพราะเคยเจ็บป่วยฉุกเฉินจนต้องเป็นหนี้" แฮร์ริสกล่าวในการหาเสียงขณะนั้น

ล่าสุดแฮร์ริสขยับขึ้นไปอีกขั้นโดยเสนอจะทำงานร่วมกับมลรัฐต่างๆ เพื่อยกหนี้ค่ารักษาพยาบาลให้กับชาวอเมริกันหลายล้านคน โดยอาจใช้เงินจากรัฐบาลกลางเพื่อซื้อหนี้หรือยกหนี้ที่ค้างชำระจากสถานพยาบาลต่างๆ

ห้ามโก่งราคาสินค้ากลุ่มอาหารและของใช้จำเป็น 

นโยบายนี้ถูกสื่ออเมริกันพูดถึงกันอย่างมากว่าเป็น "first-ever" หรือนโยบายที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศเศรษฐกิจเสรีนิยมจ๋าอย่างสหรัฐ ที่รัฐบาลจะไปห้ามบริษัทเอกชนไม่ให้ขึ้นราคาสินค้า

อย่างไรก็ตาม ทีมหาเสียงของแฮร์ริสพยายามย้ำให้เห็นความแตกต่างว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การห้ามขึ้นราคาสินค้า แต่เป็นการป้องกันการโก่งราคาสินค้าซึ่งไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค 

"มีข้อแตกต่างกันอย่างมาก ระหว่างการตั้งราคาที่เป็นธรรมในตลาดที่แข่งขันได้ กับการตั้งราคาที่มากเกินไปซึ่งไม่สอดคล้องกับต้นทุนในการทำธุรกิจ" ทีมหาเสียงระบุ "ชาวอเมริกันสามารถเห็นความแตกต่างนั้นได้ในบิลรายจ่ายของพวกเขา"

ลดหย่อนภาษีให้ครอบครัวเด็กแรกเกิด

แฮรริสเสนอนโยบายลดหย่อนภาษีสูงสุด 6,000 ดอลลาร์ (ราว 2.07 แสนบาท) กับครอบครัวที่มีเด็กแรกเกิดในปีแรก โดยเป็นการมุ่งเป้าไปที่การลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสำหรับครอบครัวชนชั้นกลางและรายได้ต่ำ เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลักที่เป็นกุญแจสำคัญในการคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.นี้ 

ขณะเดียวกัน แฮร์ริสยังเรียกร้องให้ฟื้นนโยบาย American Rescue Plan ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่หมดอายุไปเมื่อปี 2564 กลับมาอีกครั้ง กับการลดหย่อนภาษีให้ครอบครัวที่มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ 3,600 ดอลลาร์ และ 3,000 ดอลลาร์สำหรับเด็กโตกว่านั้น 

นโยบาย 'บ้านหลังแรก' ก็มา

ที่จริงแล้วในยุคของไบเดน-แฮร์ริส ก็มีมาตรการในทำนองนี้ออกมา คือรัฐช่วยอุดหนุนค่าผ่อนดาวน์ให้สูงสุด 25,000 ดอลลาร์ สำหรับผู้ซื้อบ้านที่ครอบครัวตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ยังไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง (first-generation home buyer) ส่วนผู้ซื้อบ้านหลังแรกที่ไม่มีเงื่อนไขเรื่องครอบครัวจะได้เป็นการลดหย่อนภาษีสูงสุด 10,000 ดอลลาร์ ซึ่งมาตรการนี้มีขึ้นเพื่อช่วยคนอเมริกันประมาณ 4 แสนราย 

แต่นโยบายใหม่ของแฮร์ริสเป็นการทำให้มาตรการนี้ง่ายขึ้นกว่าเดิมและช่วยคนได้มากกว่าเดิม โดยแฮร์ริสเสนอแผนช่วยอุดหนุนค่าดาวน์บ้านเป็นเงินสูงสุด 25,000 ดอลลาร์ ให้กับผู้ซื้อบ้านหลังแรก โดยผู้มีสิทธิขอรับความช่วยเหลือจะต้อง "ไม่มีประวัติเบี้ยวหนี้" การเช่าบ้านเป็นเวลา 2 ปี ส่วนกลุ่ม first-generation home buyer จะได้ความช่วยเหลือมากกว่านี้ แต่ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม 

เป็นที่คาดว่าการขยายนโยบายบ้านหลังแรกของแฮร์ริสให้ครอบคลุมขึ้นจะสามารถช่วยชาวอเมริกันได้มากกว่า 4 ล้านคน ภายใน 4 ปีของการดำรงตำแหน่ง