‘รัสเซีย’ มองเกมผิดตรงไหน เปลี่ยนรุกเป็นรับ ‘ยูเครน’ โจมตีคูร์สก ยับเยิน

‘รัสเซีย’ มองเกมผิดตรงไหน เปลี่ยนรุกเป็นรับ ‘ยูเครน’ โจมตีคูร์สก ยับเยิน

ช่วงก่อนกองทัพยูเครน จะบุกข้ามพรมแดนภูมิภาคคูร์สก ทางตะวันตกของรัสเซีย ไม่มีสัญญาณใดๆจากมอสโกว่า มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น หรือเพียงเพราะชะล่าใจ

KEY

POINTS

KeyPoints 

  • ปฏิบัติการโจมตีภูมิภาคคูร์สก จนประชาชนนับแสนคนต้องอพยพหนี ได้สร้างความช็อก และเกิดคำถามเกี่ยวกับหน่วยข่าวทางการทหารของรัสเซียที่เฝ้าระวังสถานการณ์  ตลอดจนการวางแนวกำลังทหาร ตั้งป้อมปราการที่ดูจะแข็งแรงในพื้นที่ชายแดนนั้น มีประสิทธิภาพจริงหรือไม่
  • ในการป้องกันชายแดนรัสเซียมีหน่วยงานที่รับผิดชอบคือทหารประจำพื้นที่ กองกำลังชายแดนของ FSB และกองกำลังป้องกันประเทศรัสเซีย ซึ่งอเล็กเซ สเมอร์นอฟ รักษาการผู้ว่าการภูมิภาคคูร์สกกล่าวเป็นนัยว่า หน่วยงานเหล่านี้ต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาร่วมกัน

ช่วงก่อนกองทัพยูเครน จะบุกข้ามพรมแดนภูมิภาคคูร์สก ทางตะวันตกของรัสเซีย ไม่มีสัญญาณใดๆจากมอสโกว่า มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น หรือเพียงเพราะชะล่าใจ

หากย้อนกลับไปดูสถานการณ์ภายในรัสเซีย ในช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 6 สิงหาคม กระทรวงกลาโหมรัสเซียโพสต์ข่าวดีทางโซเชียลว่า เจ้าหน้าที่ทหารที่รับผิดชอบในการยึดเมืองตะวันออกของยูเครน จำนวนกว่า 2,500 นาย จะได้รับรางวัลทหารกล้าหาญ

เช้าวันนั้น “ยูเครนเริ่มรุกรานรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุด” ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่คลิปวิดีโอภาพพลเอกวาเลรี เกราซิมอฟ ผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมเขตสู้รบพื้นที่หนึ่งในยูเครน พร้อมสั่งให้ดำเนินภารกิจเพิ่ม

แม้ฟุตเทจไม่ได้ระบุเวลาชัดเจนในการเยือนของผู้บัญชาการกองทัพรัสเซีย แต่ภาพที่เห็น เขาไม่ได้แสดงความกังวลใดๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ในภูมิภาคคูร์สก ทางตะวันตกของรัสเซีย ซึ่งอาจเป็นจุดพลิกผันสงครามรัสเซีย - ยูเครน ที่ดำเนินมานานกว่า 2 ปีครึ่ง

กระแสความตื่นกลัวได้แพร่กระจายในหมู่ชาวรัสเซียอย่างรวดเร็วในช่วงเช้าวันเดียวกันนั้น แม้ทางการรัสเซียจะพยายามบอกซ้ำๆ เพื่อให้ความมั่นใจชาวรัสเซียว่า ทุกอย่างควบคุมได้

ความคิดที่ว่า “ยูเครนสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาชนะรัสเซีย” และบุกยึดดินแดนเพื่อนบ้านที่ใหญ่กว่ามากนั้นดูเป็นเรื่องที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่คาดการณ์มาก่อน

ปฏิบัติการดังกล่าวสร้างความช็อก และเกิดคำถามเกี่ยวกับหน่วยข่าวทางการทหารของรัสเซียที่เฝ้าระวังสถานการณ์  ตลอดจนการวางแนวกำลังทหาร ตั้งป้อมปราการที่ดูจะแข็งแรงในพื้นที่ชายแดนนั้น มีประสิทธิภาพจริงหรือไม่

เป้าหมายของยูเครนในคูร์สกคือ "การเบนความสนใจของกองทัพรัสเซียที่วางกำลังอยู่แนวหน้าในภูมิภาคโดเนตสค์ มายังคูร์สก"

ในทางกลับกัน การสู้รบได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นในภูมิภาคนี้ในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา และสร้างความเสี่ยงให้ยูเครนเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความพยายามยึดพื้นที่ในคูร์สก แต่ผลกลับออกมาดี

กระทั่งเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 7 สิงหาคม ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และเกราซิมอฟ ได้กล่าวสุนทรพจน์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์โดนโจมตีในคูร์สก โดยปูตินระบุว่า “เป็นการยั่วยุครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งจากยูเครน”

มิเชล นักวิเคราะห์ทางการทหารกล่าวว่า ไม่มีข้อมูลชี้ว่าเกราซิมอฟได้รับรายงานผิดพลาดจากทหารในพื้นที่หรือไม่ หรือเขาถูกบังคับให้ปูตินต้องบอกข่าวดีต่อสาธารณะชนทางโทรทัศน์

 

ประกาศให้ประชาชนออกจากพื้นที่

กระทรวงกลาโหมรัสเซียใช้เวลานานเกือบ 12 ชั่วโมง นับตั้งแต่ยูเครนบุกรุก เมื่อเวลา 5.30 น.ของวันที่ 6 สิงหาคม และกว่าจะยอมรับต่อสาธารณะได้ว่ายูเครนได้โจมตีชายแดนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังฝ่าแนวชายแดนเข้ามาในรัสเซียได้อีก

แม้ว่า เทเลกราฟได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับขีปนาวุธ เมื่อเวลา 01.51 น. และ 03.11 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันที่ 6 สิงหาคม โดยเรียกร้องให้ประชาชนหาที่หลบภัย   ในเวลาถัดมา 03.15 น. ได้มีรายงานว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ได้ทำลายโดรนยูเครนที่บุกรุกเข้ามา 3 ลำ และเมื่อเวลา 06.16 น. โดรนอีก 11 ลำก็ถูกยิงทำลายเช่นกัน

นับตั้งแต่วันนั้น ภูมิภาคทั้งสองฝั่งชายแดนได้โจมตีระหว่างกันด้วยขีปนาวุธและโดรนอย่างต่อเนื่อง มากกว่าเป็นเรื่องปกติในช่วง 10 วันที่ผ่านมา โดยเป้าหมายการโจมตีอยู่ที่คลังน้ำมัน สถานีผลิตไฟฟ้า ซึ่งตามรายงานของกองทัพยูเครนระบุว่า คลังเก็บอาวุธ และอุปกรณ์ทางทหารก็ถูกโจมตีด้วย

มีโพสต์จำนวนมากบน Native Sudzhu แพลตฟอร์มชุมชนบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งไม่ระบุที่มาชัดเจนว่ามาจากแหล่งข่าวที่เป็นทางการหรือไม่ได้ “แนะนำให้ประชาชนออกจากเมือง”

นอกจากนี้ Two Majors ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 1ล้านคนทางเทเลกราฟ ได้รายงานว่ามีศัตรู (ยูเครน) รุกล้ำเข้ามาในเขตรัสเซียแล้ว 300 เมตร และกำลังถูกทำลาย

 

ใครเป็นผู้รับผิดชอบ ผลโดนโจมตีกลับ

ในการป้องกันชายแดนรัสเซียมีหน่วยงานที่รับผิดชอบคือทหารคุ้มครองชายแดน กองกำลังชายแดนของ FSB และกองกำลังป้องกันประเทศรัสเซีย ซึ่งอเล็กเซ สเมอร์นอฟ รักษาการผู้ว่าการภูมิภาคคูร์สกกล่าวว่า หน่วยงานเหล่านี้ต้องรับผิดชอบร่วมกัน

“สถานการณ์ชายแดนยังคงยากลำบาก แต่กองกำลังป้องกันรัสเซียประสบความสำเร็จในการทำลายล้างศัตรู” ผู้ว่าสเมอร์นอฟกล่าวเป็นนัย

เมื่อเวลา 17.05 น. กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวถึงการรุกคืบดังกล่าวเป็นครั้งแรกและกล่าวว่ารัสเซียได้สั่งเคลื่อนกองกำลังเพื่อไปป้องกันพื้นที่ดังกล่าวแล้ว

กองกำลังคุ้มครองชายแดน พร้อมด้วยกองกำลังชายแดนของ FSB ของรัสเซียกำลังขับไล่การโจมตีและยิงถล่มศัตรูในพื้นที่ในเขตภูมิภาคคูร์สกของรัสเซีย  และพื้นที่ในเขตภูมิภาคซูมีของยูเครน

โดยที่เกราซอฟ และประธานาธิบดีปูตินแถลงเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมว่า ปฏิบัติการจะจบลงด้วยการทำลายศัตรู และกองทัพรัสเซียจะบุกไปยังพรมแดนฝ่ายตรงข้าม

จากนั้นสิบวันต่อมา ปรากฏว่า ชาวรัสเซียมากกว่า 1 แสนคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ ขณะที่ยูเครนได้อ้างสิทธิ์ในการควบคุมพื้นที่กว่า 1,000 ตารางกิโลเมตร ของภูมิภาคคูร์สก โดยที่กองกำลังมอสโกยังคงห่างไกลเป้าหมายที่ผู้นำรัสเซียประกาศไว้

 

 

อ้างอิง : Reuters