ตลาดหุ้น'จีน' เด้ง 49 บริษัทออกจากดัชนี กวาดล้างบริษัท'ซอมบี้'

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า  เข้าสู่ปีที่ 3 ที่มีบริษัทจดทะเบียนถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นจีน ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบันมีมากถึง 40 บริษัท และอีก 9 บริษัทได้แจ้งว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะถูกเพิกถอนเช่นกัน ซึ่งเป็นการเพิกถอนหลักทรัพย์ในระดับที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ จากสถิติเดิมในปีที่แล้วที่ 45 รายในปี 2566

ชิ เพ็ง ผู้จัดการกองทุนจาก Loyal Capital กล่าวว่า การระบาดของ IPO ในช่วงปฏิรูประบบการจดทะเบียน ทำให้คุณภาพของบริษัทที่เข้าตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวน ส่งผลให้เกิดการเพิกถอนหลักทรัพย์เป็นจำนวนมากตามมา ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ต้องยอมรับว่า การเพิกถอนเหล่านี้สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุน และหากเกิดขึ้นบ่อยครั้งเกินไป จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นและความมั่นคงทางเศรษฐกิจในวงกว้าง

ตลาดหุ้นจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีจำนวนบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่พุ่งสูงขึ้นถึง 503 รายการในปี 2564 เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับ 7 ปีก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงนโยบายส่งเสริมการระดมทุนผ่านตลาดทุนของรัฐบาลจีนที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก

รัฐบาลจีนเล็งเห็นถึงความสำคัญของการปรับปรุงคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน จึงได้ออกมาตรการเข้มงวดมากขึ้น โดยเน้นที่การป้องกันไม่ให้บริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และการเร่งดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการที่บริษัทบางแห่งมีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตลาดหุ้นจีน

กฎหนึ่งหยวน

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัทจำนวนมากในตลาดหุ้นจีนถูกเพิกถอนในปีนี้ คือ "กฎหนึ่งหยวน" กฎนี้กำหนดว่า หากราคาหุ้นของบริษัทใดตกลงต่ำกว่า 1 หยวนต่อหุ้น และคงอยู่ในระดับดังกล่าวติดต่อกันเป็นเวลา 20 วันทำการ บริษัทนั้นจะถูกบังคับให้เพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์

นอกจากกฎหนึ่งหยวนแล้ว ยังมีกรณีของ บริษัท หยานไท่หยวนเฉิงโกลด์ ที่ถูกเพิกถอนเนื่องจากละเมิดเกณฑ์ทางการเงิน บริษัทนี้ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก รายได้ลดลงต่ำกว่า 100 ล้านหยวน และขาดทุนสุทธิในปี 2565 แสดงให้เห็นว่าบริษัทไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน

ดัชนี CSI 2000 ดิ่งเหว ก่อนฟื้นตัวหลังรัฐบาลชี้แจง

เมื่อวันที่ 16 เมษายน ดัชนี CSI 2000 ซึ่งเป็นดัชนีที่วัดผลการดำเนินงานของหุ้นขนาดเล็กในตลาดหุ้นจีน ปิดร่วงลงกว่า 7% หลังจากมีการเผยแพร่เอกสารกำกับดูแลฉบับใหม่ ซึ่งนักลงทุนตีความว่าเป็นการเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าหุ้นขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก

หลังจากนั้น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีนได้ออกมาชี้แจงเพื่อคลายความกังวลของตลาด ว่ากฎระเบียบใหม่นี้มีเป้าหมายหลักเพื่อกำจัด "บริษัทซอมบี้" หรือบริษัทที่ไม่สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพออกจากตลาดหลักทรัพย์ ไม่ได้มีเจตนาที่จะกดดันหุ้นขนาดเล็กโดยรวม

หลังจากได้รับการชี้แจงจากทางการ ดัชนี CSI 2000 ก็สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ในวันถัดมา สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนให้ความสำคัญกับความชัดเจนของนโยบายเป็นอย่างมาก

หยาง รุ่ยอี๋ ผู้จัดการกองทุนที่ Shanghai Prospect Investment Management  มองว่าการเพิกถอนแบบบังคับส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคาหุ้นและสร้างความเสียหายอย่างมากต่อนักลงทุน