‘จีน’ เตรียมควบรวม 2 บิ๊กโบรกเกอร์ สร้างยักษ์ใหญ่ทางการเงินท้าชน 'สหรัฐ'

‘จีน’ เตรียมควบรวม 2 บิ๊กโบรกเกอร์ สร้างยักษ์ใหญ่ทางการเงินท้าชน 'สหรัฐ'

‘จีน’ เตรียมควบรวม 2 บิ๊กโบรกเกอร์ สร้างยักษ์ใหญ่ทางการเงิน มูลค่าพอร์ตใหญ่ระดับ 7.7 ล้านล้านบาท ท้าชนแบงก์ 'สหรัฐ' เดินหน้าขยายธุรกิจในแดนมังกร

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนกำลังดำเนินการควบรวมบริษัทนายหน้าขนาดใหญ่ที่สุด 2 แห่งซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อก่อตั้งบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งใหม่ในวงการการเงิน การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะรวมภาคการเงินที่มีมูลค่าสูงถึง 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ เข้าด้วยกัน โดยมุ่งหวังที่จะสร้างธนาคารเพื่อการลงทุนที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับบริษัทการเงินจากต่างประเทศ 

“กั๋วไท่ จวินอัน ซีเคียวริตีส์” บริษัทหลักทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีนประกาศควบรวมกิจการกับ “ไห่ทงซีเคียวริตีส์” ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญ โดยจะแลกหุ้นกันในการทำธุรกรรมครั้งนี้ การควบรวมครั้งนี้ถือเป็นการรวมพลังของ 2 บริษัทที่มีรัฐบาลเซี่ยงไฮ้เป็นผู้ถือหุ้นหลัก ทำให้เกิดบริษัทหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุดในจีน ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การดูแลมีมูลค่ารวมกว่า 1.6 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 7.7 ล้านล้านบาท ส่งผลให้เป็นบริษัทใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่า ซิติก ซิเคียวริตีส์ (Citic Securities) ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของจีน

อย่างไรก็ตาม การควบรวมกิจการครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัท รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแล 

ภาคการเงินจีนทรุดหนัก

อุตสาหกรรมการเงินได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้ตลาดทุนซบเซา ข้อตกลงต่างๆ หดตัว และกำไรของบริษัทในอุตสาหกรรมลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น  ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์ป (China International Capital Corp) และซิติก ซิเคียวริตีส์ที่รายงานผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2567 ที่ลดลง

ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา “ไห่ทง” มีกำไรลดลงว่า  75% ส่วนราคาหุ้นก็ร่วงลงถึง 12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

นักวิเคราะห์จาก Hua Chuang Securities ระบุในรายงานว่า “การควบรวมกิจการอาจช่วยคลี่คลายข้อกังวลทางธุรกิจของไห่ทงได้ เนื่องจากสินทรัพย์อ้างอิงที่มีคุณภาพต่ำส่งผลให้มูลค่าของไห่ทงถูกประเมินต่ำ”

กั๋วไท่ จะดำเนินการออกหุ้นใหม่เพื่อแลกเปลี่ยนกับหุ้นของ Haitong ทั้งในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง พร้อมทั้งมีแผนระดมทุนเพิ่มเติมผ่านการเสนอขายหุ้น A ใหม่ เพื่อรองรับการควบรวมกิจการนี้ ทั้งสองบริษัทจะหยุดการซื้อขายชั่วคราวตั้งแต่วันศุกร์นี้ โดยคาดว่าหุ้น A จะกลับมาซื้อขายได้ภายใน 25 วันทำการ

สร้าง 'บิ๊กการเงิน’ ท้าชนสหรัฐ

ความเคลื่อนไหวในการควบรวมกิจการครั้งสำคัญนี้เกิดขึ้นภายใน 1 ปี หลังจากที่ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ได้แสดงวิสัยทัศน์ชัดเจนในการประชุมทางการเงิน โดยเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลมุ่งเน้นการพัฒนาธนาคารเพื่อการลงทุนชั้นนำเพียงไม่กี่แห่ง วัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันกับบริษัทจากวอลล์สตรีทในสหรัฐที่กำลังขยายการดำเนินงานในประเทศจีน 

หน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีนได้แสดงท่าทีสนับสนุนการควบรวมกิจการครั้งนี้อย่างชัดเจน โดยมีวิสัยทัศน์ระยะยาวที่จะสร้างธนาคารเพื่อการลงทุน 2 ถึง 3 แห่งที่มีศักยภาพในการแข่งขันระดับโลกภายในปี 2578 ทั้งนี้ ข้อมูลทางการระบุว่า ณ สิ้นปี 2566 จีนมีบริษัทหลักทรัพย์ประมาณ 145 แห่ง โดยมีสินทรัพย์รวมสูงถึง 11.8 ล้านล้านหยวน

การปฏิรูปภาคการเงินของสี จิ้นผิงยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทนายหน้าได้กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของนโยบาย "ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน" การดำเนินการนี้รวมถึงการปรับลดเงินเดือน การเลิกจ้างพนักงาน การควบรวมกิจการ และการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ

ข้อตกลงการควบรวมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในความมุ่งมั่นระยะยาวของจีนที่จะสร้างบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "เรือบรรทุกเครื่องบิน" เพื่อแข่งขันกับธนาคารยักษ์ใหญ่จากวอลล์สตรีท

อ้างอิง Bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์