'แบงก์ชาติจีน' ชะลอซื้อทองเป็นเดือนที่ 4 เหตุราคาแพงทุบสถิติ

'แบงก์ชาติจีน' ชะลอซื้อทองเป็นเดือนที่ 4 เหตุราคาแพงทุบสถิติ

'แบงก์ชาติจีน' ชะลอซื้อทองคำสำรองในเดือน ส.ค. เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เบรกสถิติซื้อตุนยาว 18 เดือนก่อนหน้านี้ เหตุราคาทองแพงทุบสถิติ ปีนี้แพงขึ้นแล้ว 21%

ธนาคารกลางจีน (PBOC) ชะลอการซื้อ "ทองคำ" เก็บเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการชะลอซื้อทองคำเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกันแล้ว 

"ปริมาณ" การถือครองทองคำของแบงก์ชาติจีน ณ สิ้นเดือนส.ค. ยังคงอยู่ที่ 72.8 ล้านออนซ์ แต่ "มูลค่า" ของทองคำสำรองเพิ่มขึ้นเป็น 1.8298 แสนล้านดอลลาร์ มากกว่าสิ้นเดือนก.ค. ซึ่งอยู่ที่ 1.7664 แสนล้านดอลลาร์

การชะลอซื้อทองคำมีขึ้นในขณะที่ ราคาทองคำโลก ปรับตัวสูงขึ้นจนพุ่งไปแตะสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,531.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. เนื่องจากตลาดคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย.นี้ 

นอกจากนี้ ราคาทอง ยังเพิ่มขึ้นจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ตลาดพักการลงทุนจากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มการถือครองทองคำมากขึ้น และดันราคาให้ปรับตัวขึ้นไปแล้วถึง 21% ในปีนี้

ก่อนหน้า การชะลอซื้อทองคำ ในเดือน ส.ค. ธนาคารกลางจีนซื้อทองคำเพิ่มขึ้นติดต่อกันถึง 18 เดือนมาแล้ว โดยข้อมูลของ สภาทองคำโลก (WGC) พบว่า ธนาคารกลางจีนเข้าซื้อทองคำสำรองต่อเนื่องมานับตั้งแต่เดือน พ.ย.2565 มาจนถึงเดือนเม.ย. 2567 ตั้งแต่ราคาที่ยังไม่ถึง 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์ มาจนถึงราคาที่ทะลุ 2,300 ดอลลาร์/ออนซ์ 

นอกจากนี้ PBOC ยังเป็นหน่วยงานรายแห่งที่ซื้อทองคำมากที่สุดในปี 2566 ซึ่งการซื้อทองคำสำรองของธนาคารกลางจีนยังกระตุ้นให้นักลงทุนรายย่อยในจีนแห่กันซื้อทองสะสมตามเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนมานี้ด้วย 

คาร์สเท็น เมนเค นักวิเคราะห์ของธนาคารจูเลียส แบร์ คาดการณ์ว่า แบงก์ชาติจีนจะกลับมาซื้อทองคำอีกครั้งแม้ว่าราคาทองจะพุ่งสูงก็ตาม เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองที่มีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น ความต้องการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศ