เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

หลากบรรยากาศ หลายความรู้สึก กับการเยือน 'กัมพูชา' ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย แต่ยังมีคนไทยจำนวนมากที่ยังไม่เคยเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์ของกัมพูชาด้วยตนเอง

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ใช้เวลานั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ เพียง 1 ชั่วโมง แต่ถึงอย่างนั้น ยังมีคนไทยจำนวนมากที่ยังไม่เคยเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์ของกัมพูชาด้วยตนเอง พวกเราก็เป็นหนึ่งในนั้น ก่อนที่การเดินทางครั้งนี้จะเริ่มขึ้น

การเดินทางในกัมพูชา 5 วัน 4 คืนครั้งนี้ คณะนักการทูตแรกเข้าได้สัมผัสประสบการณ์ใน 3 เมืองหลัก ๆ ได้แก่ กรุงพนมเปญ เมืองเสียมราฐ และเมืองปอยเปต ซึ่งแต่ละสถานที่ที่พวกเราได้เดินทางไปล้วนให้ความรู้สึกที่แตกต่าง แต่ก็สร้างความประหลาดใจและความประทับใจให้พวกเราได้มากไม่ต่างกัน

เมื่อเครื่องบินลงจอด ณ ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญ พวกเราก็ได้พบกับเรื่องตื่นตาตื่นใจเรื่องแรกเนื่องจากพวกเราเดินทางถึงกรุงพนมเปญในวันที่ 5 สิงหาคม 2567 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา รวมถึงเป็นวันวางศิลาฤกษ์ขุดคลองฟูนันเตโช โดยรัฐบาลได้ประกาศให้เป็นวันหยุดพิเศษ พวกเราได้เห็นประชาชนออกมาลั่นฆ้อง ตีกลอง เพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นขุดคลอง ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จะสร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจให้กับกัมพูชา

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

พระบรมมหาราชวังจตุมุขสิริมงคล

เมื่อพวกเราได้เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อาทิ พระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล วัดพนม ได้นั่งรถผ่านสถาปัตยกรรมและสถานที่ราชการต่าง ๆ รวมถึงได้เยี่ยมเยือนกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ทำให้ได้สังเกตเห็นสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของกัมพูชา ซึ่งโดยส่วนมากเป็นศิลปะที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ผสมผสานกับศิลปะขอมโบราณแบบบายนและศิลปะฝรั่งเศส

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา

ในอีกมุมหนึ่ง การเดินทางเยือนกรุงพนมเปญครั้งนี้พวกเราก็ยังได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง

การที่พวกเราได้ชมสภาพจริงของคุกตวลสเลงบางส่วนที่ยังถูกรักษาไว้ ได้เห็นสิ่งของ ภาพถ่าย และภาพวาดที่นำมาจัดแสดง ได้ฟังเรื่องราวจากวิทยากร ได้พูดคุยกับผู้รอดชีวิตจากคุกตวลสเลงตัวจริง รวมถึงได้พูดคุยกับชาวกัมพูชาที่พวกเราได้พบปะในหลายโอกาส ทำให้พวกเราได้รับรู้ว่าความสูญเสียในครั้งนั้นยังคงฝังใจชาวกัมพูชาและส่งผลต่อสังคมกัมพูชาในปัจจุบันแต่ในขณะเดียวกัน พวกเราก็ยังสัมผัสได้ถึงความทุ่มเทและมุ่งมั่นของชาวกัมพูชาที่จะพัฒนาประเทศต่อไป เพื่อพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

นอกจากนี้ จากการที่พวกเราได้พบปะชาวกัมพูชา ทั้งนักการทูตระดับบริหารของกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา นักการทูตแรกเข้า Local Staff ชาวกัมพูชาในสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ มัคคุเทศก์ พ่อค้าแม่ค้า และพนักงานห้างร้านต่าง ๆ

อีกสิ่งที่ทำให้พวกเราประทับใจมากคือ ชาวกัมพูชามีความรู้เกี่ยวกับประเทศไทยในระดับที่ดีมาก พวกเขาเหล่านี้ส่วนมากพูดภาษาไทยได้ บ้างก็เคยศึกษาอยู่ในประเทศไทยนานเกือบ 10 ปี และยังได้พบว่าชาวกัมพูชาจำนวนมากชอบดูละครไทย ชอบศิลปินไทย ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาเรียนภาษาไทยด้วยตนเอง

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ทำให้พวกเราก็รู้สึกอยากเรียนรู้และทำความรู้จักกัมพูชาให้มากขึ้นด้วยเช่นกัน