ร่วมงานวันชาติจีน มหามิตรสนิทสนม l World Pulse

สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โดยเอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง จัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี วันสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน (1 ต.ค.1949)  เมื่อวันพุธ (25 ก.ย.) ยิ่งใหญ่ตั้งแต่สถานที่จัดงานที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตกแต่งในธีมจีนอย่างงดงาม ป้าย Nihao China พร้อมรูปแพนด้ามีให้เห็นทั่วรวมถึงซุ้มประตูจีน ราวกับอยู่ในแดนมังกรก็มิปาน ไม่มีทางไปผิดงานเด็ดขาด 

บริเวณหน้างานมีการออกบูธของหน่วยงานจีนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน  หัวเว่ย ไฮเออร์ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพ รวมทั้งแบรนด์เครื่องดื่มดังมี่เสวี่ย มาบริการให้แขกได้ชื่นใจ

ตามกำหนดการท่านทูตหานและภริยาจะออกรับแขกเวลา 17.45 น. แต่บรรดาแขกผู้มีเกียรติจากทั่วทุกวงการไปกันตั้งแต่หัววันเพราะกลัวคิวมอบดอกไม้ยาวอย่างที่ล่ำลือกันมาทุกปีและปีนี้ก็เป็นเหมือนเดิม สังเกตดูแขกมักมากันในชุดสีแดง ดอกไม้ที่มามอบก็แดงเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นสีมงคลตามคตินิยมจีน ท่านทูตรับแขกได้ไม่ทันเท่าไหร่ก็หายตัวไป ทราบมาว่าลงไปรับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร มิน่า...World Pulse สะกิดใจอยู่ตอนเห็น “ผู้กำกับหนุ่ย” พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย เมื่อก่อนเริ่มงานคิดว่า อย่างไรเสียนายกฯ แพทองธารต้องมาแน่ๆ ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากที่คาด 

นายกฯ หญิงมาในชุดผ้าไทยสีแดงเข้ากันได้ดีกับธีมงานสีแดง มอบกระเช้าดอกไม้ให้ท่านทูตและร่วมถ่ายรูปคณะใหญ่ จากนั้นท่านทูตหานพานายกฯ เดินชมงาน บรรยากาศแช่มชื่นกันทุกฝ่าย ชมงานอยู่ครู่หนึ่งได้เวลานายกฯ เดินทางกลับ พิธีการบนเวทีจึงเริ่มขึ้นด้วยวีดิทัศน์ความสัมพันธ์ไทย-จีนที่จะครบ 50 ปีในปีหน้า ตามด้วยสุนทรพจน์ของท่านทูตที่เต็มไปด้วยคำคมเช่นเคย 

“จีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีที่เชื่อมโยงกันด้วยภูเขาและแม่น้ำ เป็นญาติพี่น้องที่ดีด้วยสายเลือดและหุ้นส่วนที่ดีที่มีอนาคตร่วมกัน”

หันไปดูบรรดาแขกเหรื่อแน่นอนว่างานวันชาติจีนองค์ประกอบที่จะขาดไม่ได้คือนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีนทุกหมู่เหล่าและสมาคมตระกูลแซ่ทั้งหลาย ระหว่างยืนรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับนักธุรกิจไทยกลุ่มหนึ่ง แว่วเสียงพวกเขาคุยกันว่า จะนัดกันสักวันหนึ่งเข้าพบนายกฯ แพทองธาร เพื่อมอบเงินคนละ 1 ล้านบาท ย้ำคนละ 1 ล้านบาท เพื่อนำไปช่วยเหลือน้ำท่วม ได้ยินแล้วก็น่าชื่นใจ รวยแล้วใจบุญเช่นนี้ขอให้รวยยิ่งๆ ขึ้นไปอีก! 

ด้านแขกนักการทูตก็มีสีสันไม่แพ้กัน เท่าที่ World Pulse รู้จักหน้าค่าตา ทูตจากประเทศ Global South และ BRICS มากันเหนียวแน่น เพื่อนมิตรเอเชียอุ่นหนาฝาคั่ง แม้แต่ประเทศที่ฮึ่มฮั่มกันอยู่ก็มา สะท้อนว่าการมีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันย่อมเป็นเรื่องดี เมื่อมีปัญหาก็ใช้ช่องทางการทูตแก้ไขดีกว่าทำสงครามกันมากมายนัก 

สำหรับกรุงเทพธุรกิจได้ ฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เนชั่นกรุ๊ป เป็นตัวแทนพร้อมกับวทันยา บุนนาค ร่วมแสดงความยินดีกับสถานทูตจีนในวาระสำคัญนี้ ทั้งยังได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับนักการเมือง นักธุรกิจ และเอกอัครราชทูตอีกหลายคน ถึงโอกาสความร่วมมือในอนาคต  บนเวทีมีการแสดงจากเขตปกครองตนเองทิเบต (ซีจ้าง) ของจีน และการบรรเลงกู่เจิง เพลงที่เปิดกล่อมในงานก็เป็นเพลงบรรเลงจีนอันแสนคุ้นเคย อย่างที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร แม้ไม่ใช่คนที่เติบโตในครอบครัวเชื้อสายจีนยังสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิด 

อีกเรื่องที่ไม่พูดไม่ได้หากคิดจะรีวิวงานเลี้ยง นั่นคืออาหารจีนนานาชนิดไม่ว่าจะบะหมี่เนื้อหมาล่า บะหมี่เส้นสด หมูกรอบ ปลาทอดตัวใหญ่ยักษ์ กระเพาะปลา ขนมโบราณของแท้จากประเทศจีน เรียกชื่อไม่ถูก สาธยายไม่หมด เพราะไม่ได้ตั้งใจจะรีวิวให้เป็นเรื่องเป็นราวตั้งแต่แรกเลยไม่ได้จดชื่อขนมมาด้วย สัญญาว่าปีหน้าจะทำการบ้านให้ดีกว่านี้

 และด้วยความที่แขกเหรื่อมาร่วมงานหลักพันคน อาหารที่มหามิตรจัดเลี้ยงจะเพียงพอกับแขกหรือไม่เป็นสิ่งที่ World Pulse ฉงนอยากได้คำตอบ การดูแลแขกให้อิ่มหนำสำราญถือเป็นความสามารถอย่างหนึ่งของเจ้าภาพ ทั้งยังสะท้อนวัฒนธรรมประเทศนั้นๆ ได้ด้วย  World Pulse ลองสังเกต ตอนเสร็จพิธีกรรมบนเวทีเริ่มตักอาหารทุกบูธคิวยาวเหยียด แต่ถ้าอดทนรอคิวทุกคนจะได้ชิมอาหารจีนรสเลิศกันถ้วนหน้า และที่แตกต่างไปจากงานวันชาติอื่นๆ คือ แม้เวลาล่วงเลยถึงสามทุ่มแขกยังมีอาหารให้รับประทานอิ่มท้องกันทุกคน แถมยังมีให้แขกนำกลับไปบ้านด้วย มีถุงกระดาษใส่ให้เสร็จสรรพ น่านับถือน้ำใจมหามิตร ไม่มีของเหลือทิ้ง 

ทั้งหมดนี้คืองานวันชาติจีนแบบย่นย่อ ไม่ผิดเลยที่ใครๆ ชอบพูดว่า “จีน-ไทยใช่อื่นไกลพี่น้องกัน” ความสนิทสนมคุ้นเคยสัมผัสได้ในทุกองค์ประกอบของงาน ยิ่งปีหน้าครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับไทย ความร่วมมือจะยิ่งแน่นแฟ้น ถือเป็นหมุดหมายที่น่าจับตาระหว่างมิตรประเทศทั้งสอง