นิวซีแลนด์ดูแล 'สุขภาพจิต' ภาคธุรกิจฟรี เศรษฐกิจแย่ทำผู้ประกอบการเครียด

นิวซีแลนด์ดูแล 'สุขภาพจิต' ภาคธุรกิจฟรี เศรษฐกิจแย่ทำผู้ประกอบการเครียด

นิวซีแลนด์ช่วยดูแลสุขภาพจิตฟรีให้ผู้ประกอบการธุรกิจ หลังเศรษฐกิจเผชิญความท้าทาย ท่ามกลางคนอพยพย้ายประเทศพุ่งจากปัญหาค่าครองชีพพุ่งสูง สวนทางรายได้น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน

สำนักข่าวซินหัวและสื่อท้องถิ่นในนิวซีแลนด์รายงานว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ริเริ่มมาตรการสนับสนุนทางสุขภาพจิตให้แก่บรรดาเจ้าของธุรกิจ เนื่องจากคนกลุ่มนี้ต้องเผชิญกับสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย

รายงานระบุว่า มีการทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลและหอการค้าเมืองโอ๊คแลนด์ เพื่อรับรองว่าบรรดาเจ้าของธุรกิจจะสามารถเข้าถึงทรัพยากรด้านสุขภาพจิตและสวัสดิการสุขภาพได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช่จ่าย

ทรัพยากรด้านสุขภาพจิตที่กล่าวถึงข้างต้น ได้แก่ แพลตฟอร์มที่ปรึกษาทางออนไลน์ ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนสุขภาพจิตของผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองซึ่งสามารถให้คำปรึกษาและการบำบัดได้ รวมถึงบริการต่างๆ เช่น คำแนะนำด้านโภชนาการ การฝึกอบรมความเป็นผู้นำ การให้คำปรึกษาทางธุรกิจ และการให้คำแนะนำเกี่ยวกับทักษะทางดิจิทัล เป็นต้น

แอนดรูว เบย์ลี รัฐมนตรีซึ่งรับผิดชอบด้านการผลิตและธุรกิจขนาดย่อมของนิวซีแลนด์ กล่าวว่า เจ้าของกิจการทั่วประเทศกำลังเผชิญกับความยากลำบากในขณะนี้ เนื่องจากต้องต่อสู้กับสภาพทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย

เบย์ลีกล่าวด้วยว่าหากนับเฉพาะปีที่แล้ว มีการใช้งานทรัพยากรเหล่านี้มากกว่า 750,000 ครั้ง

วิกฤติคนแห่ย้ายประเทศหนีพุ่ง

ก่อนหน้านี้สำนักข่าวบลูมเบิร์กเคยรายงานว่า ภาวะค่าครองชีพที่พุ่งสูงกว่าประเทศอื่นๆ แต่กลับมีรายได้ที่น้อยกว่า ทำให้นิวซีแลนด์กำลังเกิดคลื่นอพยพออกนอกประเทศครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะการบ้ายประเทศไปยังเพื่อนบ้านอย่าง "ออสเตรเลีย"

รายงานในเดือนส.ค. ระบุว่า ชาวนิวซีแลนด์ประมาณ 44,534 คน ซึ่งคิดเป็นเกือบ 1% ของประชากรทั้งประเทศ 5 ล้านคน ย้ายไปออสเตรเลียแทน โดยการสูญเสียจำนวนประชากรสุทธิ มีจำนวน 27,011 คนในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 85% จากปี 2565 และเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556 

ทั้งนี้ นิวซีแลนด์เคยเป็นเหมือนสวรรค์หลบภัยในช่วงการระบาดของโควิดที่ผ่านมา ทว่ามาตรการช่วยเหลือจำนวนมากทยอยสิ้นสุดลงหลังจบการระบาด ขณะที่ธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากไม่ได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งตามปกติ นอกจากนี้ นิวซีแลนด์ยังเจอปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงโดยพุ่งไปถึง 7.3% ช่วงกลางปี 2565 แม้ปัจจุบันจะลดลงมาอยู่ที่ราว 3% แล้วแต่ก็ยังถือว่าสูงท่ามกลางค่าครองชีพที่แพงกว่าเพื่อนบ้าน แต่กลับมีรายได้เฉลี่ยน้อยกว่า  

จาร์ร็อด เคอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกีวีแบงก์ในเมืองโอ๊คแลนด์กล่าวว่า เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์อ่อนแอลงมาก ต่างจากในออสเตรเลียที่มีโอกาสมากมาย และแน่นอนว่าเงินเดือนเป็นแรงดึงดูดที่แท้จริงสำหรับชาวนิวซีแลนด์ โดยส่วนรายได้เฉลี่ยต่อสัปดาห์ในออสเตรเลียอยู่ที่ 1,888 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เมื่อเทียบกับนิวซีแลนด์อยู่ที่ประมาณ 1,453 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งหมายความว่าชาวนิวซีแลนด์สามารถหารายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเกือบ 30% ในประเทศเพื่อนบ้าน