วิเคราะห์สังหารผู้นำฮิซบอลเลาะห์คาบ้าน อิสราเอล 'แทรกซึม' ได้หมดแล้ว
บทวิเคราะห์และแหล่งข่าวในพื้นที่เผย การสังหารผู้นำสูงสุดฮิซบอลเลาะห์-ไล่ปลิดชีพแกนนำ สะท้อนชัดเจนว่าอิสราเอลสามารถ "เจาะ" เข้าถึงข้างในของกลุ่มได้พรุนหมดแล้ว เหลือแค่จะลงมือเมื่อใดเท่านั้น
จากกรณีการสังหาร "ซายอิด ฮัซซัน นัสรัลลาห์" ผู้นำสูงสุด กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่ว่า ทางกลุ่มได้ถูก "แทรกซึม" ทะลุทะลวงได้หมดแล้ว จนทำให้ศัตรูตัวฉกาจอย่าง "อิสราเอล" สามารถทำลายฐานเก็บอาวุธ ดักโจมตีระบบสื่อสาร และลอบสังหารผู้นำสูงสุดได้ ทั้งที่เรื่องเหล่านี้เป็นความลับที่ถูกปกปิดไว้อย่างดีมานานหลายปี
สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า การสังหาร "นัสรัลลาห์" คาศูนย์บัญชาการใหญ่ของกลุ่มในกรุงเบรุต เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีขึ้นตามหลังเพียงสัปดาห์เดียวหลังจากที่อิสราเอลออกปฏิบัติการรระเบิดเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารหลายร้อยเครื่องในเลบานอน และสามารถปลิดชีพบรรดาแกนนำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้คนแล้วคนเล่าถึงครึ่งหนึ่งของแกนนำทั้งหมดทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊
รอยเตอร์สได้สัมภาษณ์แหล่งข่าวหลายฝ่ายทั้งจากอิสราเอล เลบานอน อิหร่าน และซีเรีย โดยแหล่งข่าวรายหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลเปิดเผยก่อนมีปฏิบัติการปลิดชีพผู้นำฮิซบอลเลาะห์เพียงไม่ถึง 24 ชม.ว่า อิสราเอลใช้เวลาถึง "20 ปี" ในความพยายามมุ่งเจาะข้อมูลข่าวกรองของฮิซบอลเลาะห์ จนสามารถลงมือโจมตีถึงตัวนัสรัลลาห์ได้เมื่อต้องการ แม้ว่าจะหลบซ่อนอยู่ในศูนย์บัญชาการใหญ่ก็ตาม และกล่าวถึงการแทรกซึมของอิสราเอลว่า "ยอดเยี่ยม" แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ด้านแหล่งข่าวอีก 2 รายเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และรัฐมนตรีคนสนิทอีกจำนวนหนึ่งของอิสราเอล เป็นผู้ที่อนุมัติการโจมตีครั้งนี้เมื่อวันพุธที่ 25 ก.ย. และการลงมือก็เกิดขึ้นในระหว่างที่เนทันยาฮูยังอยู่ระหว่างการร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก
แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลว่า นัสรัลลาห์ ซึ่งเคยรอดพ้นจากการโจมตีครั้งสำคัญเพื่อเด็ดชีพของอิสราเอลมาได้ครั้งหนึ่งในอดีต ได้หลีกเลี่ยงการปรากฎตัวต่อสาธารณะมานับตั้งแต่สงครามปี 2006 ระมัดระวังตัวทุกย่างก้าว และจำกัดคนที่สามารถเข้าถึงได้เพียงแค่หยิบมือ
การปลิดชีพในครั้งนี้ได้จึงหมายความว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ถูกอิสราเอลเข้าแทรกซึมล้วงข้อมูลที่แน่นหนาที่สุดออกไปได้แล้ว แม้ว่าจะยิ่งเพิ่มการระวังตัว ภายหลังเกิดเหตุระเบิดเพจเจอร์เมื่อวันที่ 17 ก.ย. แล้วก็ตาม
ทั้งนี้ อิสราเอลสามารถสังหารผู้นำสูงสุดที่บัญชาการกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มานานกว่า 3 ทศวรรษได้ จากการออกฎิบัติการทางกาศทิ้งระเบิดถล่มศูนย์บัญชาการใต้ดิน ที่ฉากหน้าเป็นอาคารที่พักอาศัยทั่วไป ทางตอนใต้ของกรุงเบรุต เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น
"นี่คือการโจมตีครั้งใหญ่และเป็นความล้มเหลวด้านข่าวกรองของฮิซบอลเลาะห์" แม็กนุส รานสทอร์ป ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านฮิซบอลเลาะห์จากมหาวิทยาลัยการป้องกันประเทศสวีเดนกล่าว "พวกเขา(อิสราเอล)รู้ว่านัสรัลลาห์กำลังประชุมกับผู้บัญชาการคนอื่นๆ และพวกเขาก็ลงมือเข้าโจมตีเพื่อมุ่งปลิดชีพทันที"
พันโทนาดาฟ โชชานี โฆษกกองทัพอิสราเอลเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กองทัพได้รับข้อมูลแบบ "เรียลไทม์" ว่านัสรัลลาห์กำลังประชุมกับบรรดาแกนนำอยู่เพื่อวางแผนโจมตีอิสราเอล ขณะที่พลจัตวาอามิไช เลอวิน ผู้บัญชาการฐานทัพอากาศฮัตเซอริม กล่าวว่า ระเบิดหลายสิบลูกยิงเข้าถล่มเป้าหมายตามมาภายในไม่กี่วินาที แม้ปฏิบัติการครั้งนี้จะมีความซับซ้อน แต่ก็เป็นสิ่งที่อิสราเอลเตรียมการมาเป็นเวลานานแล้ว
ตลอดทั้งปีนี้ อิสราเอลสามารถไล่ปลิดชีพบรรดาผู้บัญชาการระดับสูงที่สุดของฮิซบอลเลาะห์ได้ 8 คน จากทั้งหมด 9 คน (รวมนัสรัลลาห์) โดยการเสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากการถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แกนนำระดับสูงสุดเหล่านี้มาจากหลายหน่วยของฮิซบอลเลาะห์ ตั้งแต่ฝ่ายที่ดูแลขีปนาวุธ ไปจนถึงหน่วยอีลีทของกลุ่มอย่างกองกำลัง Radwan
นอกจากนี้ ยังมีรายงานบรรดานักรบฝ่ายปฏิบัติการณ์ของฮิซบอลเลาะห์บาดเจ็บหนักถึงขั้นพิการอีกถึงราว 1,500 คน จากเหตุระเบิดเพจเจอร์และวิทยุสื่อสาร วอล์กกี้ ทอล์กกี้ ระหว่างวันที่ 17 - 18 ก.ย. ด้วย