'เรื่องเพศ' ยังเป็นเรื่องใหญ่ขวางปธน.หญิง โพลล์ชี้ฉุดยิ่งกว่ายุค ฮิลลารี
ปี 2024 แล้ว แต่ผลสำรวจชี้ 'ความเป็นผู้หญิง' ยังเป็นปัจจัยลบต่อชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของคามาลา แฮร์ริสมากกว่าสมัย 'ฮิลลารี คลินตัน'
เว็บไซต์เดอะฮิลล์รายงานอ้างผลสำรวจความเห็นของสำนักข่าวเอพีร่วมกับศูนย์วิจัย NORC พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามชาวอเมริกันจำนวนมากยังคงมองว่าปัจจัยเรื่องเพศจะส่งผลลบต่อรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ในการชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐปลายปีนี้ และจะเป็นผลบวกต่ออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มากกว่า
ผลสำรวจระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 38% เชื่อว่าการเป็นผู้หญิงจะส่งผลลบต่อโอกาสชนะของแฮร์ริส ส่วน 34% เชื่อว่าจะส่งผลดี และอีก 26% เชื่อว่าไม่ทำให้เกิดผลอะไรทั้งสิ้น
ในทางกลับกันเมื่อถามเรื่องนี้กับการส่งผลต่อผู้สมัครจากรีพับลิกันทรัมป์ 41% เชื่อว่าจะเป็นผลบวกต่อทรัมป์ โดยมีเพียงแค่ 13% เท่านั้นที่มองเป็นด้านลบ และอีก 45% เชื่อว่าไม่ทำให้เกิดผลเปลี่ยนแปลงอะไร
ทั้งนี้ ความเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งชายและหญิงเกี่ยวกับเรื่องเพศที่มีผลต่อการเลือกตั้งสหรัฐในครั้ง แทบจะไม่ต่างกัน โดยมีผู้หญิง 39% และผู้ชาย 37% ที่ตอบว่าการเป็นผู้หญิงจะส่งผลลบต่อโอกาสชนะของแฮร์ริส ขณะที่ผู้หญิง 42% และผู้ชาย 40% มองว่าการเป็นผู้ชายจะเอื้อให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง
รายงานระบุด้วยว่าผลสำรวจในปี 2024 นี้ สะท้อนถึงมุมมองชาวอเมริกันว่าเรื่องเพศยังคงเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นปัจจัยลบต่อโอกาสชนะของแฮร์ริส ยิ่งกว่าเมื่อครั้งที่ "ฮิลลารี คลินตัน" อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐลงชิงชัยสู้กับทรัมป์เมื่อปี 2016
โพลล์ในปีนั้นระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมากถึง 37% เชื่อว่าความเป็นผู้หญิงจะช่วยหนุนให้ฮิลลารีชนะเลือกตั้ง โดยมีเพียง 29% เท่านั้นที่มองเป็นปัจจัยลบ ขณะที่ 33% มองว่าการเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายล้วนไม่มีผล
ทั้งนี้ ผลสำรวจล่าสุดจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 12 - 16 ก.ย. กับกลุ่มตัวอย่าง 2,028 คนในวัยผู้ใหญ่ทั่วประเทศ ท่ามกลางเวลาอีกไม่ถึง 6 สัปดาห์ ก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะตัดสินชี้ชะตากันในวันที่ 5 พ.ย.นี้