ทรัมป์ขู่ใช้กองทัพจัดการ ‘ศัตรูจากภายใน’ วันเลือกตั้ง

ทรัมป์ขู่ใช้กองทัพจัดการ ‘ศัตรูจากภายใน’  วันเลือกตั้ง

อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่าจะใช้กองทัพเพื่อจัดการกับคนที่เขาอ้างว่าเป็น “ศัตรูจากภายใน” ในวันเลือกตั้ง ระบุ ไม่ได้กังวลความโกลาหลที่จะมาจากผู้สนับสนุนของเขาหรือของคนต่างชาติ แต่กังวลเกี่ยวกับความไม่สงบที่อาจจะมาจาก “คนบ้าฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง”

 “ผมคิดว่าปัญหาที่ใหญ่กว่าคือผู้คนจากภายใน เรามีคนเลวมากบางคน เรามีคนป่วยบางคน คนบ้าฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง” ทรัมป์ กล่าวกับ มาเรีย บาร์ติโรโม พิธีกรข่าวทีวี Fox News ในการให้สัมภาษณ์ในรายการ “Sunday Morning Futures” เมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) 

“ผมคิดว่ามันคงจัดการได้ง่ายมาก หากจําเป็นโดยใช้กองกำลังพิทักษ์ชาติ (National Guard) หรือหากจําเป็นจริงๆ ก็ใช้กองทัพ เพราะพวกเขาไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น” ทรัมป์กล่าวเสริม

เมื่อวันที่ 6  ม.ค.2021 ผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีบุกเข้าไปในอาคารัฐสภาสหรัฐ เพื่อที่จะขัดขวางการรับรองผลการเลือกตั้งปี 2020 โดยสภาคองเกรส ซึ่งครั้งนั้นทรัมป์แพ้การเลือกตั้งแต่ไม่ยอมรับ

สำหรับการเลือกตั้งปีนี้ ทรัมป์ บอกว่าจะไม่มีภัยคุกคามใด ๆ จากฝ่ายที่สนับสนุนเขา

“ไม่ ผมไม่คิดว่า ..ไม่ใช่จากฝ่ายที่โหวตให้กับทรัมป์” อดีตประธานาธิบดีกล่าวเมื่อบาร์ติโรโมถามว่าเขาคาดว่าจะเกิดความโกลาหลในวันเลือกตั้งหรือไม่ โดยเธออ้างถึงกรณีที่กระทรวงยุติธรรมจับกุมและตั้งข้อหาชาวอัฟกานิสถานในข้อหาวางแผนก่อการร้ายในสหรัฐอเมริกาในวันเลือกตั้ง และอ้างถึงภัยคุกคามจาก “ผู้ก่อกวนจากภายนอก” และผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย แต่ทรัมป์หันไปโจมตีฝ่ายซ้ายในสหรัฐซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองแทน

 “ผมคิดว่าปัญหาที่ใหญ่กว่าคือศัตรูจากภายใน ไม่ใช่คนต่างชาติที่เข้ามาและทําลายประเทศของเรา อย่างไรก็ตาม พวกเขาทําลายประเทศของเราอย่างย่อยยับ เมือง หมู่บ้าน เต็มไปด้วยพวกพวกเขา” ทรัมป์กล่าว โดยอ้างถึงผู้อพยพที่ทรัมป์โจมตีซ้ำบ่อยครั้งโดยใช้วาทกรรมที่ไร้มนุษยธรรม

 ทีมหาเสียงของรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ฉวยโอกาสตอบโต้ทรัมป์ โดยแย้งว่า จากคำกล่าวของทรัมป์ ชาวอเมริกันทุกคนควรตระหนักถึงภัยคุกคามจากทรัมป์

“ทรัมป์กําลังบอกว่าเพื่อนร่วมชาติชาวอเมริกันของเขาเป็น ‘ศัตรู’ ที่เลวร้ายกว่าศัตรูจากต่างชาติ และเขาบอกว่าเขาจะใช้กองทัพเพื่อต่อต้านพวกเขา” เอียน แซมส์ โฆษกอาวุโสและที่ปรึกษาของงทีรณรงค์หาเสียงกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ “ด้วยคําปฏิญาณของเขาที่จะเป็นเผด็จการใน ‘วันแรก’ เรียกร้องให้มี ‘การยกเลิก’ รัฐธรรมนูญ และวางแผนที่จะแต่งตั้งคนประจบประแจงที่จะให้อํานาจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนแก่เขาหากเขากลับมาดํารงตําแหน่งผู้นำสหรัฐ สิ่งนี้ควรปลุกชาวอเมริกันทุกคนที่ใส่ใจในเสรีภาพและความปลอดภัยของพวกเขา ”

อดีตประธานาธิบดีได้ปฏิเสธการกระทําผิดใด ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การจลาจลเมื่อวันที่ 6 มกราคม และพยายามตําหนิผู้อื่นรวมถึงพรรคเดโมแครตสําหรับเหตุวุ่นวาย และกล่าวเท็จต่างๆนาๆ แม้ว่าเขาจะถูกรัฐบาลกลางและมลรัฐฟ้องในข้อหาแทรกแซงการเลือกตั้งในปี 2020 ในวอชิงตัน ดี.ซี. และจอร์เจียตามลําดับ เขาปฏิเสธว่าเขาไม่มีความผิดในคดีเหล่านั้น

ทรัมป์ยังได้วางแนวทางไว้เพื่อตั้งคําถามถึงความน่าเชื่อถือของการเลือกตั้งปี 2024 เขาขู่ว่าถ้าเขาชนะการเลือกตั้งได้กลับทําเนียบขาวอีกครั้ง เขาจะดำเนินการให้มีการฟ้องร้องและ ลงโทษจําคุกระยะยาว บรรดาเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ทางการเมือง ที่เขาเห็นว่าอาจโกงการเลือกตั้ง และเขาได้กล่าวย้ำหลายครั้งว่าเขาจะใช้ระบบยุติธรรมเป็นอาวุธเพื่อไล่ล่าฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของเขาหากคนเลือกให้เขากลับทําเนียบขาว