'โบอิ้ง' เสนอขึ้นเงินเดือน 35% หวังยุติสไตรค์หยุดงานที่ลากยาว 5 สัปดาห์

'โบอิ้ง' เสนอขึ้นเงินเดือน 35% หวังยุติสไตรค์หยุดงานที่ลากยาว 5 สัปดาห์

Boeing เสนอขึ้นเงินเดือนพนักงาน 35% ภายใน 4 ปี หวังยุติการประท้วงหยุดงานที่ลากยาว 5 สัปดาห์จนบริษัทเสียหายอย่างหนัก คาดลงมติวันพุธหน้า

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พนักงานในฝ่ายช่างเครื่องของบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ "โบอิ้ง" (Boeing) ที่ผละงานประท้วงมานานกว่า 1 เดือน จะร่วมกันลงมติในวันพุธที่ 23 ต.ค. เกี่ยวกับสัญญาฉบับใหม่ที่บริษัทเสนอขึ้นเงินเดือนให้ 35% ภายใน 4 ปี ซึ่งอาจยุติการประท้วงที่กินเวลานาน 5 สัปดาห์และสร้างความเสียหายหนักให้บริษัท 

พนักงานสหภาพแรงงานของโบอิ้งราว 33,000 คน ทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรัฐวอชิงตัน ได้เริ่มประท้วงตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. การหยุดงานครั้งนี้ทำให้สายการผลิตเครื่องบินรุ่นขายดีอย่าง 737 MAX และเครื่องบินลำตัวกว้างรุ่น 767 และ 777 ต้องหยุดชะงัก ยิ่งซ้ำเติมฐานะการเงินของโบอิ้งที่กำลังย่ำแย่อยู่แล้วให้หนักขึ้นไปอีก

สหภาพแรงงานช่างเครื่องและคนงานด้านอวกาศนานาชาติ Local 751 ระบุว่า ข้อเสนอใหม่นี้ประกอบด้วยโบนัสพิเศษ 7,000 ดอลลาร์หากสัญญาได้รับการอนุมัติ มีการนำแผนจูงใจกลับมาใช้ใหม่ และเพิ่มเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 401(k) ของพนักงาน โดยนายจ้างจะสมทบเพิ่มให้สูงสุด 12% พร้อมเงินก้อนอีก 5,000 ดอลลาร์

โบอิ้งประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า "ตั้งตารอให้พนักงานของเราลงคะแนนเสียงในข้อเสนอที่ได้จากการเจรจา"

\'โบอิ้ง\' เสนอขึ้นเงินเดือน 35% หวังยุติสไตรค์หยุดงานที่ลากยาว 5 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าพนักงานโบอิ้งจะเห็นชอบกับข้อเสนอนี้ หลังจากที่พวกเขาเคยโหวตคว่ำข้อเสนอแรกไปอย่างถล่มทลาย โดยสหภาพแรงงานกล่าวกับพนักงานในวันเดียวกันว่า "อนาคตของสัญญานี้อยู่ในมือของพวกคุณ"

ก่อนหน้านี้ หอการค้าสหรัฐได้เรียกร้องผ่านทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติการประท้วงหยุดงาน ซึ่งกำลังส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั่วทั้งอุตสาหกรรม จนทำให้ซัพพลายเออร์ของโบอิ้งอย่างบริษัท สปิริต แอโรซิสเต็มส์ ต้องประกาศพักงานพนักงานบางส่วนชั่วคราว

เดิมทีโบอิ้งเคยเสนอขึ้นเงินเดือนให้พนักงาน 30% ระยะเวลา 4 ปี แต่ข้อเสนอนี้ถูกยกเลิกไปเมื่อวันที่ 8 ต.ค. หลังจากการเจรจาต่อรองกับสหภาพแรงงาน รวมถึงการไกล่เกลี่ยโดยคนกลางจากรัฐบาลกลาง ไม่ประสบความสำเร็จ

ฝั่งสหภาพแรงงานต้องการขึ้นเงินเดือน 40% และต้องการให้โบอิ้งนำระบบบำนาญแบบกำหนดอัตราผลประโยชน์กลับมาใช้ แต่ข้อเสนอสัญญาฉบับใหม่ของโบอิ้งไม่มีระบบบำนาญแบบนี้รวมอยู่ด้วย

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพแรงงาน 2 รายในซีแอตเทิลให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า พวกเขาเชื่อว่าสมาชิกจะลงมติเห็นชอบกับข้อตกลง แม้คาดว่าจะเกิดกระแสต่อต้านจากพนักงานอาวุโสที่ต้องการให้โบอิ้งนำเงินบำนาญแบบกำหนดอัตราผลประโยชน์กลับมาใช้ก็ตาม

เดือนก.ย. ที่ผ่านมา พนักงานโบอิ้งฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ เกือบ 95% ลงมติปฏิเสธข้อตกลงเบื้องต้นที่เสนอขึ้นเงินเดือน 25% ตลอด 4 ปี ซึ่งข้อตกลงนี้ได้รับการสนับสนุนจากตัวแทนสหภาพแรงงานแล้ว การปฏิเสธครั้งนี้จึงเป็นชนวนนำไปสู่การประท้วงในที่สุด

ข้อตกลงเบื้องต้นของเมื่อเดือนก.ย. ดังกล่าวยังมีโบนัสเซ็นสัญญา 3,000 ดอลลาร์อีกด้วย แต่พนักงานโบอิ้งบางคนให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่าเงินโบนัสจำนวนนี้น้อยเกินไป เพราะข้อตกลงก่อนหน้านี้ พวกเขาได้รับโบนัสอย่างน้อย 5,000 ดอลลาร์

รัฐบาลรุดช่วยเจรจาหวั่นลามเลือกตั้ง

เมื่อวันเสาร์ สหภาพแรงงานโพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐมนตรีรักษาการกระทรวงแรงงานสหรัฐ จูลี ซู สหภาพฯ ได้รับ "ข้อเสนอที่ผ่านการเจรจาแล้ว" และบอกกับพนักงานที่กำลังประท้วงว่าข้อเสนอนี้สมควรได้รับการพิจารณา

ก่อนหน้านี้ ซูได้เดินทางไปยังเมืองซีแอตเทิลเมื่อวันจันทร์ที่ 14 ต.ค. เพื่อช่วยไกล่เกลี่ยข้อตกลงระหว่างโบอิ้งกับสหภาพแรงงานด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก และหลังจากเดินทางไปดีทรอยต์ ซูก็กลับมาซีแอตเทิลอีกครั้งในคืนวันพฤหัสบดีเพื่อสานต่อความพยายามในการไกล่เกลี่ย

โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เชื่อว่า กระบวนการเจรจาต่อรองร่วมกันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างผลลัพธ์ที่ดีสำหรับแรงงาน และการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับสัญญาจะเป็นของสมาชิกสหภาพแรงงาน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 ต.ค. โบอิ้งประกาศแผนปลดพนักงาน 17,000 ตำแหน่ง หรือ 10% ของพนักงานทั่วโลก และตั้งสำรองค่าใช้จ่ายไว้ 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ตอกย้ำความวุ่นวายที่โบอิ้งเผชิญมาตลอดปี นับตั้งแต่เครื่องบิน 737 MAX 9 ใหม่ของสายการบินอลาสก้า แอร์ไลน์สประสบเหตุฉุกเฉินกลางอากาศ 
ความขัดแย้งทางแรงงานครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบทางลบต่อรายงานการจ้างงานเดือนต.ค. ของสหรัฐ ซึ่งจะเผยแพร่เพียงไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พ.ย.

นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า การประท้วงของพนักงานโบอิ้ง รวมถึงการพักงานแบบหมุนเวียนของพนักงานที่ไม่ได้ประท้วง และการเลิกจ้างชั่วคราวในบริษัทคู่ค้าของโบอิ้ง อาจทำให้ตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรกรรมลดลงถึง 50,000 ตำแหน่งในเดือนนี้ ทั้งนี้ ในเดือนก.ย. เศรษฐกิจสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานลดลงจาก 4.2% ในเดือนส.ค. เหลือ 4.1%