ผลการเลือกตั้งสหรัฐจะนำไปสู่การสร้างสันติภาพโลก?

ผลการเลือกตั้งสหรัฐจะนำไปสู่การสร้างสันติภาพโลก?

ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 5 พ.ย.67 นี้ จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพโลก หรือจะทำให้สงครามยิ่งขยายวง และรุนแรงขึ้นไปอีก ในฐานะที่สหรัฐเป็นผู้เล่นระดับโลกที่สำคัญมากที่สุดในเรื่องสันติภาพ และความมั่นคง

การเลือกตั้งผู้นำสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน นี้ จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพ หรือสงครามจะยิ่งขยายวงและรุนแรงขึ้นไปอีก ลีส ดูเซต์ หัวหน้าผู้สื่อข่าวต่างประเทศบีบีซี สอบถามผู้สังเกตการณ์เพื่อสะท้อนถึงผลที่จะตามมาในระดับโลกของการเลือกตั้งครั้งสำคัญนี้

ประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไปจะเผชิญกับความเสี่ยงครั้งใหญ่ที่สุดจากการเผชิญหน้ากับมหาอำนาจนับตั้งแต่สงครามเย็น “สหรัฐยังคงเป็นผู้เล่นระดับนานาชาติที่มีความสำคัญมากที่สุดในเรื่องสันติภาพ และความมั่นคง” คอมฟอร์ต เอโร ประธาน และซีอีโอของกลุ่มรณรงค์เพื่อสันติ International Crisis Group กล่าว เธอเสริมว่า “แต่อิทธิพลในการช่วยแก้ไขความขัดแย้งจะลดน้อยลง”

เอโร ชี้ว่าสงครามกำลังกลายเป็นเรื่องที่ยุติได้ยากขึ้นเรื่อยๆ

“ความขัดแย้งที่ร้ายแรงกลายเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยากขึ้น การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจเร่งตัวขึ้น และมหาอำนาจระดับกลางก็เพิ่มขึ้น”

สงครามเช่นในยูเครนดึงดูดมหาอำนาจหลายประเทศเข้ามา และความขัดแย้งในซูดานทำให้ผู้เล่นในภูมิภาคที่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกันต้องมาต่อสู้กันเอง และบางคนก็ทุ่มเทให้กับสงครามมากกว่าสันติภาพ

เอโร กล่าวว่า อเมริกากำลังสูญเสียจุดยืนทางศีลธรรม “ผู้เล่นระดับโลกสังเกตเห็นว่าอเมริกาใช้มาตรฐานหนึ่งกับการกระทำของรัสเซียในยูเครน และอีกมาตรฐานหนึ่งกับการกระทำของอิสราเอลในฉนวนกาซา ส่วนสงครามในซูดานนั้นเต็มไปด้วยความโหดร้าย แต่กลับถูกมองว่าเป็นปัญหาระดับรอง” 

เธอกล่าวว่า ชัยชนะของคามาลา แฮร์ริสนั้น “แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องกับรัฐบาลชุดปัจจุบัน”

แต่หากเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ เขา “อาจให้อิสระกับอิสราเอลมากขึ้นในการทำสงครามในฉนวนกาซา และที่อื่นๆ และบอกเป็นนัยว่าเขาอาจพยายามทำข้อตกลงกับมอสโกเพื่อยุติสงครามในยูเครน โดยข้ามหัวเคียฟ”

ผลการเลือกตั้งสหรัฐจะนำไปสู่การสร้างสันติภาพโลก?

ในตะวันออกกลาง ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตย้ำถึงการสนับสนุนอย่างหนักแน่นของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต่อ “สิทธิในการปกป้องตนเอง” ของอิสราเอล แต่เธอยังเน้นย้ำด้วยว่า “การสังหารชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์ต้องหยุดลง”

ทางด้านทรัมป์ยังประกาศด้วยว่าถึงเวลาแล้วที่จะ "กลับคืนสู่สันติภาพ และหยุดฆ่าคน" แต่มีรายงานว่าเขากลับบอกกับเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ว่า "ทำในสิ่งที่คุณต้องทำ" ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันภูมิใจที่ตัวเองเป็นผู้สร้างสันติภาพ "ผมจะสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง และในเร็วๆ นี้" ทรัมป์ให้คำมั่นในการใหสัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Al Arabiya ของซาอุดีอาระเบีย เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เขาสัญญาว่าจะขยายข้อตกลงอับราฮัมปี 2020 ข้อตกลงทวิภาคีเหล่านี้สถาปนาความสัมพันธ์อันเป็นปกติระหว่างอิสราเอลและรัฐอาหรับบางรัฐ แต่ไม่ได้รวมชาวปาเลสไตน์ และท้ายที่สุดก็มีส่วนทำให้เกิดวิกฤติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในปัจจุบัน

เกี่ยวกับยูเครน ทรัมป์ไม่เคยปิดบังความชื่นชมที่มีต่อผู้นำเผด็จการอย่างวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย เขาแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาต้องการยุติสงครามในยูเครน และพร้อมกับยุติการสนับสนุนทางทหาร และทางการเงินจำนวนมาก "ผมจะออกไป เราต้องออกไป" เขายืนกรานในการชุมนุมหาเสียงเมื่อไม่นานนี้

ในทางตรงกันข้าม แฮร์ริสกล่าวว่า “ฉันภูมิใจที่ได้ยืนหยัดเคียงข้างยูเครน ฉันจะยังคงยืนหยัดเคียงข้างยูเครน และจะทำงานเพื่อให้แน่ใจว่ายูเครนจะชนะในสงครามครั้งนี้”

แต่เอโรกังวลว่าไม่ว่าใครจะได้รับเลือก สถานการณ์ต่างๆ ในโลก ก็อาจย่ำแย่ลงได้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์